นับเป็นปีทอง OMODA และ JAECOO ที่พร้อมบุกตลาดรถถยนต์เมืองไทยอย่างจริงจังและยังปลุกชีพแบรนด์แม่ CHERY กลับมาในไทยอีกครั้งหลังห่างหายไป 17 ปี
ภายในปี 2025-2026 หรือ 2 ปี ทั้ง CHERY OMODA และ JAECOO พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถใหม่ให้ชาวไทยได้สัมผัสกัน 15 รุ่น 3 แบรนด์ ทั้ง CHERY และ OMODA&JAECOO พกขุมพลังหลากหลายทั้ง SHS-CHS (PHEV), BEV, HEV และ REEV เริ่มที่
CHERY 5 รุ่น
เริ่มที่ CHERY V23 หรือ iCAR V23 รวมถึง CHERY TIGGO 7 CSH และ CHERY TIGGO 8 CSH ในช่วงไตรมาสที่ 3, CHERY TIGGO Cross ไตรมาสที่ 4 และ CHERY TIGGO 9 CSH ไตรมาสที่ 1 ปี 2026 รวม 5 รุ่น ไฮไลท์ของแบรนด์มีดังนี้
CHERY V23 หรือ iCAR V23 เอสยูวีทรงกล่อง BOXY ที่การออกแบบไปคล้ายกับ Land Rover DEFENDER ผสมกับ Toyota FJ CRUISER แถมเป็นลุยรุ่นเล็กที่ชอบความคล่องตัวกว่ารุ่นพี่ JAECOO 6 EV หรือ iCAR 03 และ JAECOO 6T EV หรือ iCAR 03T
ขุมพลังประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Qida Permanent magnet Motor พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CATL ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 จาก 30%-80% ในเวลาเพียง 0.5 ชั่วโมง และกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW
มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว รุ่น Standard Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 59.93 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 387 กิโลเมตร (NEDC) รุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 81.76 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 550 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 531 กิโลเมตร (NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 75 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 501 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 483 กิโลเมตร (์NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport, Snow ,Mud, Sand ในระบบ iWD intelligent electric 4-wheel drive 6 โหมด
มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ 3.3 kW และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ใพร้อม ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
2 รุ่นจากตระกูล CHERY TIGGO ทั้ง CHERY TIGGO 7 CSH และ CHERY TIGGO 8 CSH มาพร้อมระบบขับเคลื่อน CHERY Super Hybrid (CSH)
ซึ่งเป็นระบบ Plug-in Hybrid ทำงานควบคู่กันระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์ให้กำลังสุงสุด156 แรงม้าและ แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสุงสุด 204 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังสามารถเลือกการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึงระยะทาง 90 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC)
CHERY TIGGO Cross เอสยูวีเล็กมาแปลกกว่ารุ่นอื่นด้วยพลังฟูลไฮบริด 1.5 ลิตร 102 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.837 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.8 วินาที
และ CHERY TIGGO 9 เอสยูวี 3 แถวพลังปลั๊กอินไฮบริดขับเคลื่อนล้อหน้า 1.5 ลิตร เทอร์โบ 156 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เริ่มที่ล้อหน้า 102 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร และล้อหลัง 122 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 19.43 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.9 วินาที
พร้อมกับผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจาก CHERY นั้นเตรียมขยายเครือข่ายและศูนย์บริการ 30 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้
OMODA&JAECOO 10 รุ่น
ภายใน 2 ปี เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System), เครื่องยนต์ BEV (Battery Electric Vehicle), HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมีกำหนดการเปิดตัวทั้ง JAECOO 5 EV, JAECOO 6T EV ภายในไตรมาส 3 ตามมาด้วย
ไตรมาส 4 พบกับ OMODA C7 SHS และ OMODA C9 SHS พร้อมกับรุ่นใหม่ขุมพลังไฟฟ้าขยายระยะทางอีก 1 รุ่น หรือ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) ทียังไม่มีข้อสรุปพร้อมรุ่นฟูลไฮบริด 2 รุ่น ทั้ง OMODA C5 HEV กับ JAECOO 5 HEV และการปรับโฉมของ OMODA C5 EV
จากนั้นในปี 2026 ช่วงไตรมาสที่ 1 ขนมาอีก 3 รุ่น กับ OMODA C7 SHS JAECOO 8 SHS และ OMODA C3 BEV เข้ามาด้วยในเวลาเดียวกัน รวมทั้งหมด 10 รุ่น โดยไฮไลท์ของ OMODA&JAECOO มีดังนี้
JAECOO 6T EV หรือ iCAR 03T นำพื้นฐานของ JAECOO 6 EV หรือ iCAR 03 ตกแต่งให้หล่อสมาร์ทกว่าจากแพลตฟอร์ม i-MS Platform ใหญ่กว่า JAECOO 6 EV เล็กน้อย
พร้อมขุมพลังอีวีด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Qida Permanent magnet Motor พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CATL ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 จาก 30%-80% ในเวลาเพียง 0.5 ชั่วโมง และกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW
จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 69.77 kWh มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 520 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 502 กิโลเมตร (NEDC) โหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 95 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 279 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในระยะเวลา 6.5 วินาที วิ่งได้ไกลสุด 501 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 483 กิโลเมตร (NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport, Snow ,Mud, Sand ในระบบ iWD intelligent electric 4-wheel drive
OMODA C9 SHS นำพื้นฐานจากจาก EXEED YAOGUANG หรือ EXEED RX เปิดตัวจีนเมื่อปี2022 ขายต่างประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ปรับดีไซน์เล็กน้อยให้เข้าจริตของตลาดโลกด้วยการแปะตรา OMODA
พกขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด SHS ด้วยเบนซินเทอร์โบ Kunpeng ขนาด 1.5 ลิตร รหัส SQRH4J15 ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิด 215 นิวตันเมตร
พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ให้กำลังรวมสูงสุด 462 แรงม้า แรงบิดรวม 700 นิวตันเมตร แบ่งเป็นล้อหน้า 224 แรงม้า แรงบิด 390 นิวตันเมตรและล้อหลัง 238 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Ternary lithium battery 34.46 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 618 แรงม้า แรงบิด 915 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามาตรฐาน WLTC และถ้าวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทั้งระบบทำได้ 1,100 กิโลเมตรตามาตรฐาน CLTC หรือ 1,046 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 3-speed DHT มีโหมดการทำงาน 9 โหมด ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC รองรับกำลัง 6.6 kW 0-100% ภายใน 5.5 ชั่วโมงและกระแสตรง DC รองรับกำลังการชาร์จ 40 kW จาก 30-80% ในเวลาเพียง 25 นาทีพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
OMODA C7 SHS หน้าตาที่โดดเด่นนำสมัย ออกแบบภายใต้แนวคิด “Global Co-creation, Unlimited Enjoyment” โดยเป็นรุ่นแรกที่ตั้งใจออกแบบมาให้กับแบรนด์ OMODA โดยเฉพาะไม่ได้เอารุ่นอื่นๆในเครือ CHERY มาแปะตราแต่ย่างใด
กับขุมพลัง SHS ปลั๊กอินไฮบริดด้วยเบนซินเทอร์โบไดเรคอินเจคชัน ขนาด 1.5 ลิตร รหัส H4J15 ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 2,500-4,000 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Ternary lithium battery ขนาด 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลัง 360 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.5 วินาที
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 95 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและถ้าวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำได้ 1,250 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed DHT มีโหมดการทำงาน 9 โหมด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9 วินาที ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC และ กระแสตรง DC
JAECOO 8 SHS เอสยูวีใหญ่พื้นฐาน CHERY TIGGO 9 พกพลังปลั๊กอินไฮบริดด้วยกำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร และทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ได้กำลังสูงสุด 605 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 915 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลา 5.4 วินาที
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 34.46 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 20 นาที และยังชาร์จกระแสสลับ AC ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 175 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC วิ่งไกลด้วยด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้า 1,321 กิโลเมตร
นอกจากรถใหม่ 16 รุ่นทั้ง 3 แบรนด์ที่จะมาไทยภายใน 2 ปีนี้ยังมีรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2025 อีก 2 รุ่นทั้ง OMODA C5 EV แนะนำ 2 รุ่นย่อยโดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและฟังก์ชันเดิมอย่างครบถ้วน ได้แก่รุ่น Long Range Dynamic ราคา 649,000 บาท และรุ่น Long Range Max ราคา 699,000 บาท เพิ่มพลังเป็น 211 แรงม้า (เดิม 204 แรงม้า) แรงบิด 340 นิวตันเมตร วิ่งไกล 505 กิโลเมตร (NEDC) จากความจุแบตเตอรี่ 61 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า
และ JAECOO 6 EV 4WD สีใหม่ Forest Green และ Lunar Silver มีโปรโมชันพิเศษภายในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้เท่านั้น โดยมอบส่วนลดสูงสุดมูลค่า 150,000 บาท เริ่ม 1,099,000 บาท
ทางด้านโรงงานประกอบเริ่มเดินสายผลิตในไทยที่จังหวัดระยองในไตรมาส 3 นี้ระดมทุนกว่า 5,000 ล้าน ผลิต JAECOO 6 EV เป็นรุ่นแรก ตั้งเป้าผลิต 80,000 คันต่อปี
และประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย
สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด และนวัตกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืนเน้นกลุ่มรถกระบะ เอ็มพีวี และ เอสยูวี และนี่คือก้าวที่สำคัญของ CHERY OMODA&JAECOO ภายใน 2 ปี