BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกไปแล้วกว่า 400,000 คันในเดือนมีนาคม ทำให้ยอดขายในไตรมาสแรกอยู่ที่เกือบหนึ่งล้านคัน ด้านการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าได้ 206,084 คัน เพิ่มขึ้น 111% จากไตรมาสที่ 1 ของปี 2024
Q1 ปี 2025 ผู้ผลิตรถยนต์จากเซินเจิ้นขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าได้ 416,388 คัน เพิ่มขึ้น 39% จาก 300,114 คัน ใน Q1 ปี 2024 ยอดขายรถยนต์นั่งไฟฟ้า คิดเป็น 42.2% ลดลงจาก 48.1% ใน Q1 ของปีก่อน
ยอดขายรถยนต์นั่งแบบ PHEV อยู่ที่ 569,710 คัน เพิ่มขึ้น 76% จาก 324,284 คัน ใน Q1 ปี 2024 คิดเป็น 57.8% เพิ่มขึ้นจาก 51.9%
BYD ยุติการผลิตยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในเดือนเมษายน 2022 และจำหน่ายเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน (PHEV) เท่านั้น โดยสามารถขายได้ถึง 3 ล้านคันในปี 2023, 4.3 ล้านคัน ในปี 2024 และคาดว่าจะส่งมอบได้ประมาณ 5.5 ล้านคันในปี 2025 และ 6.5 ล้านคันในปี 2026
ในเดือนมีนาคม 2025 ขายรถยนต์ได้ 377,420 คัน โดย 371,419 คันเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพิ่มขึ้น 15% จากเดือนกุมภาพันธ์ และ 23.1% จากปีก่อน
ในเดือนมีนาคม ผลิตรถยนต์ได้ 395,091 คัน เพิ่มขึ้น 33% จาก 296,253 คันในปีก่อน ยอดขายส่งออกอยู่ที่ 72,723 คัน เพิ่มขึ้นเกือบ 90% เทียบเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8.5% จากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลรายเดือนสำหรับการส่งออก
ยอดขายเดือนมีนาคมของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD
- Yangwang: 133 คัน
- Fang Cheng Bao: 8,051 คัน (+126% เทียบปีต่อปี)
- Denza: 12,620 คัน (+22.8% เทียบปีต่อปี)
- BYD (ซีรีส์ Dynasty + Ocean): 350,615 คัน (+23% เทียบปีต่อปี)
ในไตรมาสแรกของปี 2025 ขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ 990,711 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 58.7% จาก 624,398 คันในไตรมาสแรกของปี 2024 จากจำนวนดังกล่าว มีการส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศ 206,084 คัน เพิ่มขึ้น 110.5% จากไตรมาสแรกของปี 2024
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน BYD ขายรถยนต์ได้ 1,000,804 คัน โดย 986,098 คันเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยเป็นยอดขายสะสมทะลุ 11.6 ล้านคัน
Source : CarNewsChina
