Formula 1 ได้เสร็จสิ้นการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลทุกเซสชั่นไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้คือของจริงที่พวกเขาต้องงัดทุกความเข้าใจในตัวรถมาปรับเซตสำหรับการแข่งขัน ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นก็จะเปิดม่านสนามแรกของฤดูกาล 2022 และนี่คือสิ่งที่แต่ละทีมพบเจอหรือต้องแก้ไข ณ ตอนนี้
- Red Bull เผยความเร็วรถออกมา
อุบเงียบมาอยู่นานกับการทำงานที่หาเซตติ้งรถ ทดสอบการวิ่งระยะยาว หรือตรวจเช็คเทียบข้อมูลอากาศพลศาสตร์ในการวิ่งจริงกับคอมพิวเตอร์ Red Bull ทำโปรแกรมการทดสอบตามข้างต้นมาตลอด จนกระทั่งถึงชั่วโมงสุดท้ายของวันสุดท้ายของการทดสอบซึ่งพวกเขาก็เผยไต๋ความเร็วรถออกมา
ในการทดสอบที่บาห์เรนพวกเขาได้นำไซด์พอดแบบใหม่มาใช้และทำการปรับแต่งเซตติ้งรถอยู่สักพักใหญ่ และในวันสุดท้ายพวกเขาก็ได้ทำการควานหาประสิทธิภาพของรถ Max Verstappen ใส่ยางซอฟต์และลดปริมาณเชื้อเพลิงลงให้รถมีน้ำหนักเบา ก่อนที่จะกดเวลาขึ้นอันดับ 1 ที่ถึงกับทำให้ทีมงาน Red Bull โดยเฉพาะ Helmut Marko ที่ปรึกษาของทีมยิ้มแป้นเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าเวลาในการทดสอบจะเป็นอะไรที่เชื่อถือได้ยาก อย่างไรก็ตามแต่ละทีมนั้นมีข้อมูล GPS และการคาดเดาด้วยการวิเคราะห์และประสบการณ์ของพวกเขา ซึ่งคู่แข่งนั้นเชื่อว่ารถ Red Bull คือรถหัวแถวที่พวกเขาต้องไล่ล่าในสนามแรก
- Mercedes กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก
Mercedes ยังคงเป็นทีมที่มีความพร้อมและสามารถทำการทดสอบได้ตามแผนที่วางเอาไว้ พวกเขาให้ Lewis Hamilton โฟกัสกับการวิ่งระยะยาวในช่วงเช้า และให้ George Russell หาสมรรถนะของรถในการวิ่งระยะสั้นในช่วงบ่าย ซึ่งถึงแม้ว่าปัญหาเกี่ยวกับระบบต่างๆ และความเสถียรนั้นจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่กับปัญหา Porpoising หรือการกระดอนของรถ Mercedes ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้
Russell นั้นออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าในขณะนี้ Red Bull และ Ferrari นั้นอยู่ข้างหน้า Mercedes ในขณะที่ Hamilton ต้องการสมรรถนะรถให้มากกว่านี้ เพราะการทำเวลารอบเดียวนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาจะสู้ Red Bull ไม่ได้เลย
- Ferrari ยังคงถ่อมตัวไม่คิดว่าพวกเขานั้นอยู่กลุ่มผู้นำ
ถึงแม้ว่าจะมีผลการทดสอบออกมาเป็นที่น่าประทับใจ แต่ Mattia Binotto ทีมบอส Ferrari ยังคงปฏิเสธแข็งขันถึงการทำผลงานระดับแชมป์ แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่คู่แข่งของพวกเขาคิด
Carlos Sainz ที่รับหน้าที่ทดสอบรถในช่วงเช้าได้ทำการโฟกัสกับการปรับเซตอัพ โดยเขาวิ่งด้วยยางฮาร์ด C2 ก่อน จากนั้นสลับไปใช้ยางซอฟต์ C5 ทำให้เขาเข้าใจถึงอาการรถที่เปลี่ยนไปและนำข้อมูลมาให้ทีมงานปรับแต่งเซตอัพ ก่อนที่จะส่งต่อรถไปให้ Charles Leclerc ได้ทดสอบในช่วงบ่าย ซึ่งนักแข่งจากโมนาโคได้ทดสอบจำลองการควอลิฟายและการวิ่งระยะยาว และทั้งหมดนี้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น Ferrari ไม่พบปัญหาใดๆ เลยทั้งสิ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คู่แข่งถึงกับต้องมองค้อนเลยทีเดียวว่า ทดสอบราบรื่นและเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่ตัวเต็งแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?
- McLaren พบปัญหาที่พวกเขาไม่ได้พบมาก่อน
McLaren จบการทดสอบที่บาร์เซโลน่าโดยไม่พบปัญหาหนักอะไร แต่เมื่อมาที่บาห์เรนพวกเขาพบกับปัญหาการระบายความร้อนของเบรก จนทำให้ตัวแข่ง MCL36 ไม่สามารถทดสอบวิ่งระยะยาวได้เลย
ที่บาร์เซโลน่านั้นมีสภาพอากาศที่เย็น ทำให้ปัญหาการระบายความร้อนไม่ถูกพบ แต่เมื่อทางทีมมาพบปัญหาที่บาห์เรน นั่นจึงทำให้พวกเขาเสียเวลาในการทดสอบไปพอสมควร เนื่องจากต้องรีบอัปเดตและผลิตชิ้นส่วนที่ทำการแก้ไขใหม่ส่งมาจากฐานโวกกิ้ง ซึ่งกว่ามันจะมาถึงก็ปาเข้าไปวันสุดท้ายของการทดสอบเสียแล้ว โชคยังดีที่ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนใหม่นี้จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ทำให้ Lando Norris ได้มีการทดสอบวิ่งระยะยาวในวันสุดท้าย
นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัญหาที่ฉุดรั้งความคืบหน้าในการทดสอบ นั่นก็คือ Daniel Ricciardo มีผลการตรวจโควิดเป็นบวก ซึ่งทำให้เขาต้องแยกออกไปกักตัวและไม่ได้ทำการทดสอบหรือทำความคุ้นเคยกับรถใดๆ ทางทีมคาดว่า Ricciardo น่าจะหายทันก่อนสัปดาห์หน้าที่จะมีการแข่งขันสนามแรก แต่ถ้าหากไม่ทันพวกเขาก็เตรียมมาตรการรองรับเอาไว้แล้ว โดยการดีลกับ Alpine ในการให้ Oscar Piastri นักขับทดสอบของ Alpine มาลงขับให้กับ McLaren
- Alpine ก้าวข้ามอุปสรรคมาได้
การทดสอบที่บาร์เซโลน่านั้นไม่ได้ใจดีกับทีมแข่งจากฝรั่งเศสเลย พวกเขาน่าจะยินดีมากหากลืมๆ มันไปได้ แต่กับที่บาห์เรน Alpine มีการทดสอบที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง และพวกเขาได้ทำการทดสอบมากมายซึ่งทั้งหมดนั้นให้ผลออกมาในเชิงบวก
Fernando Alonso ได้ทำการทดสอบการวิ่งด้วยน้ำหนักรถที่เยอะในตอนเช้าของวันสุดท้าย ก่อนที่จะสลับมาเป็นน้ำหนักน้อยในตอนบ่าย ซึ่งนักแข่งสแปนิชกล่าวว่าตัวแข่ง A522 นั้นกลับมามีชีวิตชีวามากทีเดียว
ทางด้าน Alan Permane ผู้อำนวยการฝ่ายการกีฬาก็รู้สึกแฮปปี้กับการที่ทีมพลิกสถานการณ์กลับมาจากบาร์เซโลน่าได้ โดยกล่าวว่าตอนนี้ Alpine ทดสอบทุกอย่างเป็นไปตามแผนและน่าจะเป็นผู้นำในกลุ่มกลางได้
อ้างอิง : f1.com