บีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดประเทศไทยเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ใหม่ในตระกูลไดนามิกโรดสเตอร์และแอดเวนเจอร์สปอร์ตได้แก่บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R และบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR มาจัดแสดงในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 41
BMW F 900 R ใหม่และ BMW F 900 XR ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ใหม่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบอิสระในการขับขี่และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ จึงเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าสำหรับนักบิดสายสปอร์ตมากประสบการณ์หรือนักบิดมือใหม่

ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ใหม่ นับเป็นที่สุดของมอเตอร์ไซค์ในตระกูลแอดเวนเจอร์ สปอร์ตอย่างแท้จริง ด้วยสมรรถนะโฉบเฉี่ยว ตำแหน่งการขับขี่แบบนั่งตรงสไตล์ GS ความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความทรงพลัง เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ยังอยู่ที่การสืบทอดดีไซน์และคอนเซปต์ของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล XR ที่ผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งเข้าไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีใน
การขับขี่ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) และระบบ Keyless Ride ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในมอเตอร์ไซค์ระดับกลาง

ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู F 900 R และ F 900 XR ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงที่ได้รับการพัฒนาให้มีความทรงพลังยิ่งขึ้น หลังจากที่เปิดตัวไปพร้อมบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS ในปี 2561 มอบพละกำลัง 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) แรงบิด 88 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 895 ซีซี จาก 853 ซีซี พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศา และระบบเก็บเสียงแบบใหม่ มอบเสียงทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมระบบคลัทช์แบบ anti-hopping และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ เพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R และ F 900 XR ใหม่ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ รวมทั้ง Riding Modes Pro เพื่อยกระดับความสปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้น เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS Pro และระบบ ASC (Automatic Stability Control) ซึ่งสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ พร้อมระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) และระบบ Dynamic ESA
เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ GS ในตระกูล F-Series รุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R และ F 900 XR มาในโครงสร้างเฟรมเหล็กกล้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่เครื่องยนต์และถังน้ำมันซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าคนขับเช่นเคย การควบคุมล้อหน้าตอบสนองได้อย่างฉับไวด้วยโช้คแบบเทเลสโคปิก ส่วนล้อหลังควบคุมด้วยสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมพร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Central Suspension strut

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 15.5 ลิตร ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู F 900 R มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร โดยถังน้ำมันของทั้งสองรุ่นมีน้ำหนักเบาและผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยพลาสติกที่นำมาใช้ในการผลิตมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก ขณะที่โครงสร้างการยึดเหล็กกล้าส่วนท้ายรถก็ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานเป็นครั้งแรกในมอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นนี้เช่นกัน จึงทำให้ส่วนท้ายรถมีรูปลักษณ์ที่เพรียวและสั้นยิ่งขึ้น โดยบีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ซึ่งเป็นโรดสเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ จะมีระยะสปริงที่สั้นกว่าบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ที่เน้นการขับขี่ที่นุ่มสบายและหลากหลายกว่าในสไตล์แบบทัวริ่ง

ระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) พร้อมระบบ Headlight Pro นอกจากจะสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ยิ่งขึ้นแล้ว ยังนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซส์ ทำให้การขับขี่เวลากลางคืนมีความอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าส่องสว่างตามการเลี้ยวโค้ง และหลอดไฟ LED ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมอเตอร์ไซค์ในตระกูล F-Series ทุกรุ่น
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ใหม่
ราคาจำหน่าย: 495,000 บาท สำหรับสี Black Storm Metallic (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
520,000 บาท สำหรับสี Hockenheim Silver Metallic / Racing Red
(Sport Style) (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
525,000 บาท สำหรับสี San Marino Blue Metallic (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ใหม่
ราคาจำหน่าย: 535,000 บาท สำหรับสี Light White (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)