เปิดตัว BMW M3 กับ M4 ใหม่ 2 รุ่นที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุดของแบรนด์รถสัญชาติเยอรมันอย่างไม่ต้องโต้แย้ง ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงทั้งในแง่ดีไซน์หรือเครื่องยนต์ ซึ่งในปี 2021 นี้ BMW M3 และ M4 ก็จะเป็นเจเนเรชั่นที่ 6 แล้ว
ประเด็นที่ต้องพูดถึงของ M3 กับ M4 ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ กระจังหน้ารูปทรงไตคู่อันใหญ่ที่วางในแนวตั้งอยู่ตรงกลาง ภายในบรรจุเครื่องทวินเทอร์โบ 6 แถวเรียง สมรรถนะ 503 ม้า (375 กิโลวัตต์) ทั้ง 2 รุ่น สามารถเร่งจาก 0 – 60 ไมล์/ชม. ได้ภายในเวลาน้อยกว่า 4 วิ ห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่นมีการออกแบบใหม่ ด้วยชุดที่นั่งแบบสปอร์ต รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกมาก
นอกจากกระจังหน้าไตคู่แล้วยังมีไฟหน้า LED (มีอ็อปชั่นไฟเลเซอร์ให้เลือกด้วย) ช่องลมด้านหน้าขนาดใหญ่ที่ด้านล่างของกันชนวางยาวเกือบเต็มความยาว หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของทั้ง 2 รุ่น หรือคุณจะเลือกเป็นหลังคารับแสงมูนรูฟก็ได้ สปอยเลอร์ด้านและข้างที่มีเฉพาะในรุ่น M ชุดล้อที่มีขนาดหน้าและหลังไม่เท่ากัน (18 นิ้วล้อหน้า 19 นิ้วล้อหลัง) สำหรับรุ่นที่มีกำลังแรงกว่าล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลัง 20 นิ้ว นอกจากนี้แล้วยังมี M Carbon เป็นอ็อปชั่นแพ็กเกจให้เลือกใช้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ภายนอกของรถมีน้ำหนักเบา
ในส่วนของสีรุ่น M3 มีสี Isle of Man Green metallic paint อย่างที่ให้ในรูป ส่วน M4 เป็นสี Sao Paolo Yellow แต่ว่าเราสามารถเลือกสีอื่นๆอย่างเช่น Alpine White, Black Sapphire, Brooklyn Grey, Oxide Grey, Portimao Blue, Toronto Red, Tanzanite Blue II, Individual Dravit Grey, Individual Frozen Brilliant White และ Individual Frozen Portimao Blue ก็ได้
สำหรับขนาดของ M3 กับ M4 รุ่นใหม่ ทั้งคู่ใหญ่กว่ารุ่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ โดยมีความยาวจากล้อหน้าถึงล้อหลัง 112.5 นิ้ว รุ่น M3 จะยาวกว่าเดิม 4.6 นิ้ว กว้างกว่า 0.4 นิ้ว และสูงกว่า 0.1 นิ้ว ส่วนรุ่น M4 จะยาวกว่าเดิม 4.6 นิ้ว กว้างกว่า 0.7 นิ้ว และสูงกว่า 0.4 นิ้ว
ทั้งรุ่น M3 และ M4 ใช้เครื่องทวินเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร 6 แถวเรียงเหมือนกัน มันให้พลัง 473 ม้า (353 กิโลวัตต์) และแรงบิด 406 ปอนด์-ฟุต (550 นิวตันเมตร) รุ่นมาตรฐานเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. ภายในเวลา 4.1 วิ แต่ถ้ารุ่นพิเศษ เครื่องแรงกว่า 503 ม้า แรงบิด 479 ปอนด์-ฟุต (650 นิวตันเมตร) เร่งไป 60 ไมล์/ชม. ได้ภายใน 3.8 วิ เพิ่มขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ 59 ม้า กับแรงบิด 73 ปอนด์-ฟุต เมื่อนำมาเทียบกัน โดยทั้ง 2 รุ่นนี้มีพลังงานไฟฟ้า ท็อปสปีด 155 ไมล์/ชม. (250 กม./ชม.) หรือ 180 ไมล์/ชม. (290 กม./ชม.)
ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ 8 สปีด ส่งพลังขับเคลื่อนไปยังล้อหลัง ซึ่ง BMW บอกว่า xDrive จะมาพร้อมระบบช่วยเหลือคนขับสำหรับรถที่วางขายในอเมริกาปีหน้า ระบบการขับเคลื่อนล้อหลังนี้คล้ายกับ M5 ซึ่งมี M Differential ที่แกนล้อหลังทำให้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ 4 ล้อแบบสปอร์ตได้ ซึ่งระบบหลังสุดจะส่งพลังขับเคลื่อนที่มากขึ้นไปยังล้อหลัง หรือถ้าคุณอยากจะให้มันส่งพลังขับเคลื่อนทั้งหมดไปที่ล้อหลังก็ทำได้ด้วยการปิดโหมด Dynamic Stability Control (DSC)
มีหน้าจอทัชสกรีน 10.3 นิ้ว และหน้าจอ 12.3 นิ้วที่แสดงข้อมูลดิจิตัลครบทุกอย่าง มีระบบ iDrive 7.0 แบบใหม่ล่าสุดที่มีเฉพาะในรุ่น M ระบบช่วยเหลือคนขับแบบปกติ อย่างเช่น Active Driving Assistant package หรือแบบพิเศษจะมีระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แล้วก็ยังมี M Drive Professional อ็อปชั่นสำหรับมืออาชีพ ที่มี M Drift Analyzer ไว้บันทึกเวลา ระยะทาง มุมและองศาที่ดริฟท์ แล้วก็ยังสามารถดาวน์โหลดแอ๊พในไอโฟนเพื่อดูมุมมองแบบ bird’s-eye view และเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น ความเร็ว ตำแหน่ง หรือแรง G forces ได้ด้วย
ชุดเบาะหนัง Merino หลากสี พร้อมหมอนรองคอขนาดใหญ่แบบใหม่ ที่เจาะรูระบายอากาศได้ดี (เป็นครั้งแรกสำหรับรุ่น M3 กับ M4) ถ้าอยากได้ที่นั่งที่เบาสบายก็มีอ็อปชั่น ที่นั่ง M Carbon ที่มีหนักเบากว่าที่นั่งปกติ 21 ปอนด์
สำหรับช่วงล่าง ระบบกันกระเทือน และเบรกมีการอัปเกรดขึ้นใช้แกนล้อหน้าและหลังแบบใหม่ ดิสก์เบรกหน้าขนาด 14.9 นิ้ว เบรกหลังขนาด 14.6 นิ้ว
ราคาของ BMW M3 รุ่นปี 2011 จะเริ่มต้นที่ 69,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) ขณะที่ BMW M4 จะเริ่มต้นที่ 71,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.26 ล้านบาท) ราคานี้ยังไม่รวมภาษี ส่วนรุ่นที่มีพลังแรงกว่า M3 จะตั้งต้นที่ 72,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.29 ล้านบาท) และ M4 ราคา 74,700 ดอลลาร์ (2.35 ล้านบาท) ทาง BMW ยังไม่ได้เปิดเผยราคาแบบขับเคลื่อนทุกล้อของรุ่น M3 กับ M4 เพราะว่าทั้งคู่ยังไม่มีกำหนดออกในปี 2021
source : motor11
