Mitsubishi Eclipse Cross รุ่นปรับโฉมใหม่ถูกปล่อยวางขายที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งมีทั้งแบบใช้น้ำมันและแบบปลั๊กอินไฮบริด ถือเป็นครั้งแรกที่รถคอมแพ็คSUV ใข้ระบบ PHEV ที่ให้พลังมากกว่าของ Outlander PHEV ด้วย
โดย Mitsubishi ได้ระบุว่ามีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวที่อยู่ด้านหน้ามีพลัง 82 PS (80 HP) แรงบิด 137 นิวตันเมตร ส่วนอีกตัวอยู่ด้านหลัง ให้พลัง 95 PS (94 HP) แรงบิด 195 นิวตันเมตร ทั้ง 2 เวอร์ชันมากับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งมาพร้อมกับระบบ S-AWC (Super-All Wheel Control) ของ Mitsubishi ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมการขับได้หลายรูปแบบ
มอเตอร์ไฟฟ้าเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 13.8 กิโลวัตต์ แบตเตอรีลิเธียมไอออน 300 ไวลต์ที่ติดตั้งอยู่ที่พื้นรถ สามารถชาร์จใหม่ได้ด้วยเครื่อง 4B12 ขนาด 2.4 ลิตร MIVEC 4 กระบอกสูบ ให้พลัง 128 PS (126 HP) แรงบิด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ
Eclipse Cross เวอร์ชัน PHEV นั้นรองรับการชาร์จด้วยไฟกระแสสลับแบบธรรมดา 3.7 กิโลวัตต์ ชาร์จเต็มใช้เวลา 4.5 ชั่วโมง แล้วก็ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว (CHAdeMO) ที่ 22 กิโลวัตต์ จาก 0 ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น
ที่น่าสนใจของระบบ PHEV ก็คือ มีช่องชาร์จไฟ 100 โวลต์ ที่ให้พลังทั้งหมด 1,500 วัตต์สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่มีประโยชน์มากเวลาออกไปตั้งแคมป์หรือไปในป่าที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วย
สำหรับเวอร์ชันใช้น้ำมันนั้นมีเครื่อง 4B40 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้พลัง 150 PS (148 HP) ที่ 5,500 รอบ และแรงบิด 240 นิวตันเมตร ระหว่าง 2,000 – 3,500 รอบ เกียร์ 8 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและทุกล้อ
เมื่อเปรียบเทียบกัน 2 เวอร์ชัน แบบ PHEV นั้นเหนือกว่าในด้านการประหยัดพลังงานที่อัตรา 16.4 กม./ลิตร (6.1 ลิตร/100 กม.) ในขณะที่แบบน้ำมันกิน 13.4 กม./ลิตร (7.5 ลิตร/100 กม.) ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ากินน้ำมัน 12.4 กม./ลิตร (8.1 ลิตร/100 กม.)
นอกจากนี้แล้วยังมีความแตกต่างกันที่น้ำหนักรถ แบบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ หนักประมาณ 1,450 – 1,480 กก. ส่วนแบบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนทุกล้อหนักประมาณ 1,520 – 1,550 กก. ซึ่งเวอร์ชั่น PHEV จะหนักกว่า นั่นคือ ระหว่าง 1,900 – 1,920 กก. สำหรับเวอร์ชัน PHEV คุณยังสามารถเลือกแบบที่มีถังน้ำมันเล็กที่สุดได้ด้วย (43 ลิตร) แบบขับเคลื่อนทุกล้อ (60 ลิตร) และแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (63 ลิตร)
ในส่วนของความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปร่าง Eclipse Cross ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้านหน้าและหลัง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เวอร์ชั่นก่อนจะมีไฟท้ายพาดเต็มไม่มีแล้ว ถูกแทนที่ด้วยไฟทรงตัว L สำหรับด้านหน้า มีการออกแบบไฟหน้าใหม่ให้บางลงคล้ายกับไฟ LED ที่ทำหน้าที่เป็นไฟส่องสว่างเวลากลางวัน โดยไฟหน้าถูกย้ายต่ำลงมาด้วย สำหรับภายใน ระบบความบันเทิงมีหน้าตาใหม่เช่นกัน
โดยในตลาดที่ญี่ปุ่น จะมีรายการอุปกรณ์ตกแต่งที่ต่างออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละเวอร์ชั่น โดยแบ่งออกเป็น 3 เวอร์ชั่น อุปกรณ์ที่ต่างกันอย่างเช่น ไฟฮาโลเจน ไฟหน้า LED ไฟท้าย LED หรือไฟตัดหมอก ล้อขนาด 16 และ 18 นิ้ว หน้าปัดแบบอนาล็อคพร้อมกับข้อมูลแสดงผลครบถ้วน
ราคาเริ่มต้นที่ 2,531,100 เยน (ประมาณ 7.3 แสนบาท ไม่รวมภาษี) สำหรับแบบ M 1.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นท็อป 4.477 ล้านเยน (ประมาณ 1.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษี) สำหรับที่ญี่ปุ่น Mitsubishi รับประกันแบตเตอรี 8 ปี ระยะทาง 160,000 กม.
2020
