หลังจากทำตลาดรถไฟฟ้ามาได้สักระยะสำหรับ Hyundai ที่มีรถไฟฟ้าหลากรุ่นไม่ว่าจะเป็น Hyundai IONIQ และ Hyundai KONA EV
และในปีเสือนี้ Hyundai เปิดตัวเงียบๆกับ Hyundai IONIQ 5 โดยนำมาโชว์ตัวที่ห้างใจกลางกรุงมาแล้ว ล่าสุดได้รับข้อมูลว่า เจ้าเอสยูวีไฟฟ้าแดนโสมนี้ เตรียมจำหน่ายในไทยแน่นอนโดยทั่วโลกได้รู้จักมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วหน้าตาหล่อเท่ด้วยไฟหน้า LED คู่รูปตัว U พร้อมโลโก้ Hyundai บนฝากระโปรง ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 ที่เปิดประตูซ่อนรูป ด้านท้ายแพรวพราวด้วยไฟท้าย LED กับ ตรา Ioniq 5 โดยตัวรถทั้งคันได้แรงบันดาลใจจาก Hyundai Pony เก๋งรุ่นแรกของค่ายยุค 70 ในร่างเอสยูวีท้ายตัดพัฒนาจากแพลตฟอร์ม Hyundai E-GMP มีความยาว 4,635 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,605 มม. ฐานล้อ 3,000 มม. น้ำหนักรถ 2,020 กก.
ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่งด้วยพื้นที่บรรทุกของท้ายมากถึง 527 ลิตร และพับเบาะมีพื้นที่ขนของมากถึง 1,587 ลิตร ตกแต่งแบบใสๆสะอาดๆด้วย เบาะหลังทำความร้อนได้ สามารถปรับให้ขยับไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ 5 นิ้ว ทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่กว้างขึ้นหรือใช้เก็บสัมภาระที่จำเป็นได้เยอะขึ้น ช่องแอร์อยู่บนเสา B-pillars กับม่านบังแดดที่หน้าต่าง ประตูประดับด้วยไฟแบบ ambient lighting กระจายรอบทิศทาง พร้อมด้วยลำโพงที่ติดตั้งตรงที่พักแขน ส่วนคอนโซลตรงกลางมีที่ชาร์จ USB และช่องเสียบปลั๊กไฟ ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ได้เลย ด้านหน้า มีหลังคาเปิดรับแสงแถมมีแบบ Solar Roof เพิ่มกำลังไฟฟ้าให้วิ่งไกลมากขึ้นได้ ชุดเครื่องหนังใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวัสดุจากการรีไซเคิลด้วย มาตรวัดดิจิทัล Integrated display ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วอยู่ในชุดเดียวกับมาตรวัด
ทั่วโลกมีสเปคไฟฟ้าให้เลือกมากมายแต่สำหรับเมืองไทยมีแนวโน้มว่าจะนำรุ่น กับรุ่น AWD แบตเตอรี่แบบ Lithium-ION จุใหญ่ขึ้นอีก 72.6 kWh แรงสุด 305 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า 95 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร กับ มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง 210 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร) วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 430 กม. WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์ 1-Speed Front Dog Clutch Type 4WD พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal, Sport & Snow
พร้อมหัวชาร์จแบบ Type 2(AC) / CCS2(DC) ชาร์จได้ทั้งแบบชาร์จช้า AC,11 kW(Lite, Plus & Max) 0-100% 6.1 ชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC, 50 kW(Lite, Plus & Max) 10-80% ได้ 47 นาที และ DC, 350 kW(Lite, Plus & Max) 10-80% ได้ 18 นาที
Hyundai IONIQ 5 พร้อมเปิดรับจองในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ส่วนเปิดจำหน่ายจริงทาง Hyundai จะแจ้งให้ทราบในภายหลังโดยราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท และชมตัวจริงได้ที่งาน Bangkok Motor Show 2022 สองวันสุดท้ายถึงวันที่ 3 เมษายน นี้
