More

    Land Rover Defender Plug In Hybrid ตำนานขาลุยกับพลังเสียบปลั๊ก 404 แรงม้า

    Land Rover Defender รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีสมรรถนะสูงและทนทานที่สุดมาพร้อมทางเลือกใหม่ทำให้กลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้า

    Land Rover

    ล่าสุด Land Rover Defender Plug In Hybrid ใหม่ มาถึงเมืองไทยอย่างเป็นทางการ มอบขีดความสามารถในการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อกำหนดการผจญภัยครั้งใหม่ในศตวรรษที่ 22 ในขณะที่คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่พร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรคอันเป็นจุดเด่นมานานกว่า 70 ปี

    Land Rover

    หน้าตาแทบไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้า แนวนอนพร้อมโลโก้ Land Rover ไฟหน้า Premium LED พร้อมไฟ signature DRL ในโคมเดียวกัน ดีฝากระโปรงหน้าทรงนูนตรงกลาง พร้อมโลโก้ตัวหนังสือ Defender เพิ่มอรรถรสในการขับขี่มากขึ้น กันชนหน้าทรงดุ มีไฟตัดหมอกหน้าเข้ามาเสริมความสว่าง หลังคารถ พร้อมช่องกระจกเล็กๆ Alpine Light Window ซ้าย-ขวา ตรงส่วนหลังคา ถอดแบบตำนานคลาสสิก ไฟท้ายแนวตั้ง LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง กับไฟเบรกดวงที่ 3 ฝาท้ายประตูเปิดแบบบานใหญ่ด้านข้าง ติดตั้งยางอะไหล่ห้อยบนฝาท้าย ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และพอร์ตชาร์จทางด้านซ้ายของตัวรถ

    Land Rover

    ภายในมาแบบ 5 ที่นั่ง พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ 3 โซนแบบมาตรฐาน Three Zone Climate Control กระจกนิรภัย และกระจกลดทอนแสงอาทิตย์ พร้อมระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยจอสัมผัส 10 นิ้ว Pivi-Pro ลำโพงจาก Meridian พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้านดีไซน์จับกระชับมือ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง

    Land Rover

    สำหรับรุ่นระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หรือ P400e นั้น คือสิ่งสำคัญในความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นของดีเฟนเดอร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Ingenium 300 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 143 แรงม้าและความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 19.2 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ามากถึง 404 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร และวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 43 กม. ความเร็วสูงสุด 209 กม/ชม. ยังให้ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Terrain Response 2 พร้อมเกียร์ 4WD แบบ twin-speed transfer box และระบบล็อกเฟืองท้าย Differential Controls

    Land RoverLand Rover

    มาพร้อมกับสายชาร์จ Mode 2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สายชาร์จ Mode 2 จะใช้เวลาประมาณเจ็ดชั่วโมงในการชาร์จให้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชาร์จที่บ้านแบบข้ามคืน และด้วยการใช้ตัวชาร์จแบบชาร์จไวขนาด 50 กิโลวัตต์ทำให้รุ่น P400e ชาร์จได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 30 นาที

    Land Rover Defender Plug In Hybrid มีความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้และรูปทรงออฟโรดสำหรับรถยนต์ระบบไฮบริดไฟฟ้า 4×4 เต็มกำลัง ทำให้ P400e สามารถขับเคลื่อนในโหมด EV ต่ำได้อย่างเต็มที่ นำพามิติใหม่มาสู่การผจญภัยในโลกกว้าง พร้อมการเบรคแบบจ่ายพลังงานคืน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายในการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ การฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไปจากการชะลอตัวและการเบรค และส่งพลังงานเหล่านั้นกลับเข้าไปในก้อนแบตเตอรี่ ความสามารถในการลากจูงได้มากถึง 3,000 กิโลกรัม และสามารถรับน้ำหนักบนหลังคาได้ถึง 168 กิโลกรัมระหว่างขับขี่ หรือ 300 กิโลกรัมเมื่ออยู่กับที่

    Land Rover

    Land Rover Defender 2.0 PLUG-IN HYBRID AWD SE จำหน่ายในไทยราคา 6,999,000 บาทพร้อม LAND ROVER CARE นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts