More

    เจาะรถเด่น!! Mazda 2 MY2022 ปรับอีกครั้งเก๋งเล็กสุดสมาร์ท ในราคาใหม่เริ่ม 599,000 บาท

    นอกจากจะเปิดตัว Mazda CX-3 MY2022 ในงาน Motor Expo 2021 และมียอดจองเข้ามอย่างล้นหลามปรากฏว่าในบูธ Mazda มีรถสองคันจอดภายในบูธอยู่ในซอกเล็กๆที่มาพร้อมสีบรอนซ์ Platinum Quartz

    โดยสองคันนั้นที่มากับสีใหม่นั่นคือ Mazda 2 ครั้งนี้เปิดตัวเงียบๆกับรุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2022 เพิ่มออพชั่น ปรับจำนวนรุ่นย่อยให้เป็นเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นบนหน้าเดิมโฉมเดิมตั้งแต่กระจังหน้า Signature Wing กับไส้ในกระจังหน้าแบบรังผึ้งรับ กับกันชนหน้าดีไซน์หรูหรา ไฟหน้า LED พร้อม Signature Daytime Running Light พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ พร้อมไฟท้าย กันชนหลังสปอร์ตรวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์หรู สีเงินปัดเงามาเป็นสีดำเข้มขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R16 กับ ขนาด 15 นิ้ว มีให้เลือกทั้งแบบกระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อและล้ออัลลอยสีเงินและสีดำเข้มขนาด 15 นิ้ว โดยทั้งคู่มาพร้อมยาง 185/65 R15 และในรุ่น C/C Sports เพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Signature Daytime Running Light พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ

    ภายในคงเดิมแต่ปรับรายละเอียดเพิ่มออพชั่นเล็กน้อยโดยตั้งแต่รุ่น S Leather /S Sports Leather, SP/ SP Sports และรุ่น XDL/XDL Sports เพิ่มการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ระบบความบันเทิง Mazda Connect กับจอสัมผัส7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะซึ่งถูกจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน เพิ่มที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย เพิ่มเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมระบบความจำ เปลี่ยนการตกแต่งภายในเป็นหนังสีดำขลิบขาว บนพื้นฐานออพชั่นเดิมทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Sports Paddle Shift (ตั้งแต่รุ่น S ขึ้นไป ) ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมควมเร็วคงที่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ โทนสีห้องโดยสารที่เน้นอารมณ์สปอร์ตทั้งการตกแต่งในแผงคอนโซลหน้า

    ขุมพลังยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน SKYACTIV-D รหัส S5 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G รหัส P3 1.3 ลิตร 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด Activematic ติดตั้งระบบ i stop (idling stop system) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i ELOOP เปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้

    ระบบความปลอดภัยยังคับคั่งเช่นเดิมเพิ่มเติมด้วย สัญลักษณ์ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ในทุกรุ่น กับพื้นฐานความปลอดภัยเดิมด้วย ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทางและระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังด้านละ 4 จุด ในรุ่น SP/ SP Sports และรุ่น XDL/XDL Sports กล้องมองหลังพร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด ตั้งแต่รุ่น C/C Sports, S Leather /S Sports Leather และรุ่น SP/ SP Sports ระบบอัจฉริยะ i-Activsense ทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Advanced Blind Spot Monitor (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบเบรก 4W-ABS EBD กับดิสก์กึ่งดรัมและดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวทางชัน HLA ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS และถุงลมนิรภัยคู่หน้า

    Mazda 2 MY2022 มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver) และสีใหม่ สีบรอนซ์ Platinum Quartz โดยราคาจำหน่ายมีดังนี้

    – รุ่น 1.3 C/C Sports ราคาจำหน่าย 599,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000 บาท)

    – รุ่น 1.3 S Leather /S Sports Leather ราคาจำหน่าย 659,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 11,000 บาท)

    – รุ่น 1.3 SP/ SP Sports ราคาจำหน่าย 690,000 บาท

    – รุ่น 1.5 XDL/XDL Sports ราคาจำหน่าย 799,000 บาท

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts