หลังจากที่ได้ชมและสัมผัสกับเจ้าเหมียวจอมซ่า ORA Good Cat GT ลำล่าสุดจากตระกูล Good Cat ที่พร้อมจะให้คนไทยได้สัมผัส
ล่าสุด Great Wall Motor ประเทศไทย ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ ORA Good Cat GT เก๋งไฟฟ้าเวอร์ชั่นแต่งในราคา 1,549,000 บาทซึ่งเป็นราคาก่อนหักส่วนลดและสิทธิประโยชน์จากทางภาครัฐ แต่พอเป็นราคาหลังหักส่วนลดและการสนับสนุนจากทางภาครัฐจะอยู่ที่ 1,286,000 บาท (หักส่วนลด 263,000 บาท)
ORA Good Cat GT นำพื้นฐาน Good Cat ปกติปรับเติมเสริมหล่อกระชากใจทาสแมวชาวไทยอย่างสมบูรณ์แบบหล่อตั้งแต่เกิดกับ กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนด้านหลังโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/50 R18 มาพร้อมกับดิสก์เบรกคาลิปเปอร์สีแดง ชุดแต่งสเกิร์ตหน้ากับหลัง บนพื้นฐานเดิมทั้งกระจังหน้าดีไซน์คลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake กันชนหน้าทั้งชิ้นแบบกลมกลืนพร้อมไฟหน้า LED ทรงตาแมว หรือ CatEye พร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เด่นด้วยสีเทาอะควาเกรย์ (Aqua Grey) มิติตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตั้งแต่ความยาว 4,254 มม. ความกว้าง 1,848 มม. ความสูง 1,596 มม.
ภายในตกแต่งด้วยสีแดง-ดำอันเป็นเอกลักษณ์ สะดวกสบายไปกับเบาะนั่งหุ้มหนัง PVC สีดำเดินด้ายแดง โดยฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ตำแหน่ง พร้อมบันทึกตำแหน่งและฟังก์ชัน Welcome Seat พร้อมเบาะระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับผู้ขับขี่ผู้โดยสารด้านหน้าและปรับไฟฟ้าสำหรับคนนั่ง 4 ตำแหน่ง พร้อมการตกแต่งในส่วนคอนโซลหน้า ที่เท้าแขนข้างประตู ไปจนถึงพนักพิงศีรษะตราสัญลักษณ์ GT เข็มขัดนิรภัยสีแดง ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ รองรับ Apple CarPlay และ Siri รองรับ Android Auto และ Google Assistant พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน พร้อมลำโพง 6 จุด เบาะหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 858 ลิตร มีระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) และเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
ขุมพลังพัฒนาใหม่เป็นความจุแบตเตอรี่ Lithium-Ternary (NMC) 63.139 kWh กับ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังมากถึง 171 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Electronic Shifter พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ
รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW โดยชาร์จแบบเร็ว DC (0% – 80%) 60 นาที และ DC (30% – 80%) 40 นาที และการชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับด้วยการชาร์จไฟบ้านแบบ AC สูงสุด 6 kW ภายใน 10 ชั่วโมง
เด่นที่แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทก ระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานภายใน 1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยเซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องที่มีความแข็งแรงในระดับ 3 มิติ พร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อน
อุ่นใจในทุกการเดินทางเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยขั้นสูงในตัวเหมียวไฟฟ้าเวอร์ชั่นสปอร์ตด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยสำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+
- ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ (LSEB) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn) ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) โดยเมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะตรวจความดันลมยาง (TPMS) ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
- ระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไข (Passive Safety) ทั้ง โครงสร้างตัวถัง ทำจากเหล็กกล้า IronBone™ รวมไปถึงเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง 65% และเหล็กเทอร์โมฟอร์ม 8 ชิ้นซึ่งสามารถดูดซับและลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน
- เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) และการเข้าโค้งอัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) และ Intelligent LED Headlamp และระบบปรับไฟสููง-ต่ำอัตโนมัติ
สำหรับ ORA Good Cat GT จะมาเสริมทางเลือกให้กับ ORA Good Cat มีเพียง 500 คันเท่านั้น โดยจำหน่ายแค่สีเทาอะควาเกรย์ (Aqua Grey) สีเดียวเท่านั้น โดยส่งมอบล็อตแรก 200 คัน ช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ และอีก 300 คันสุดท้ายส่งมอบตั้งแต่ เมษายน-ธันวาคมปีหน้า
