More

    Toyota Corolla Cross GR Sport VS Honda HR-V RS ศึกเอสยูวีรักษ์โลกรุ่นแต่งหล่อ ตรงใจคนเมือง

    หลังจากที่เคยนำเสนอกลุ่ม Full B-SUV หรือ Entry C-SUV กับ สองรุ่นเด่นจากค่ายดังทั้ง Honda HR-V กับ Toyota Corolla Cross กับการเปรียบเทียบรุ่นท็อปสุดกันไปแล้ว

    และเพื่อเป็นการต้อนรับงานแสดงรถยนต์ Motor Expo 2021 เปิดม่านโชว์รถยนต์รุ่นใหม่ๆพร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงานและเพื่อการตัดสินใจเป็นเจ้าของทาง Car2 Day กลับมา Face 2 Face กันอีกครั้งกับสองเอสยูวีขนาดกลาง จากสองค่ายยอดนิยมของชาวไทยกับ Toyota Corolla Cross GR Sport ที่เปิดตัวในงานเป็นครั้งแรก กับ Honda HR-V RS เอสยูวีเจนใหม่ที่พร้อมชิงบัลลังก์ที่ 1 ให้สำเร็จให้ได้ เริ่มที่

    ภายนอก

    Toyota Corolla Cross GR Sport ตกแต่งแนว Gazoo Racing สไตล์รถแข่งระดับโลกที่ผ่านสนามแข่งมานับไม่ถ้วน หน้าตาหล่อแบบเดียวกับสเปกไต้หวันโดดเด่นด้วยชุดแพ็คเกจ GR Sport ประกอบด้วย กันชนด้านหน้า, กระจังหน้า, สเกิร์ตข้าง, กันชนด้านหลัง, ไฟท้าย, ล้ออัลลอย 18  นิ้ว ออกแบบใหม่ลายพิเศษโดยเฉพาะพร้อมสัญลักษณ์ GR Sport พร้อมยาง 225/50R18 บนพื้นฐานออพชั่นรุ่นท็อป Hybrid Premium Safety ตั้งแต่ ไฟหน้า Projector แบบ LED Projector มีไฟ DRL LED แบบ Light Guiding  ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าทรงสปอร์ตติดตั้ง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED หลังคามูนรูฟ และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated

    ส่วน Honda HR-V e:HEV รุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง สะท้อนพลังใหม่ที่แตกต่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้วพร้อมพร้อมยาง 225/50 R18 เผยมุมมองใหม่ด้วยหลังคากระจกแบบ Panoramic Glass Roof ที่ไม่สามารถปรับเลื่อนหรือกระดกขึ้นได้ แต่ที่เด่นกว่า Corolla Cross GR Sport ด้วยระบบฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ

    มิติตัวรถสูสีไม่หนีห่าง

    เมื่อนำมาเทียบกันจะพบว่า ทั้ง 2 รุ่น ต่างได้เปรียบในเรื่องมิติที่แตกต่างกันเริ่มที่ความยาว Corolla Cross ยาวกว่า HR-V 70 มม. ความกว้าง Corolla Cross กว้างกว่า HR-V 35 มม. ความสูง Corolla Cross สูงกว่า HR-V 30 มม. ฐานล้อ HR-V สั้นกว่า Corolla Cross 30 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น HR-V สูงกว่า Corolla Cross 35 มม. น้ำหนักรถ Corolla Cross หนักกว่า 23 กก. และความจุถังน้ำมัน HR-V จุมากกว่า 4 ลิตร

    ภายในสปอร์ตเข้มสไตล์รถแข่ง

    ด้วยการตกแต่งแผงคอนโซลหน้า สีดำ Piano Black พวงมาลัย และเบาะหนังเดินตะเข็บด้ายสีเงิน พนักพิงศีรษะและปุ่มกดสตาร์ทตกแต่งด้วยโลโก้ GR กับพื้นฐานออพชั่นเดิมทั้ง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play Bluetooth และ USB ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 487 ลิตร ไม่ว่าจะรุ่นปกติหรือรุ่น GR Sport Corolla Cross ยังให้เบรกมือแบบเท้าเหยียบแถมไม่มีระบบ Auto Brake Hold แต่ทาง HR-V เป็นแบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold

    ส่วน Honda HR-V e:HEV รุ่น RS ยังคงได้เปรียบในเรื่องความสดใหม่ของตัวรถทั้งภายนอกและภายในแนวสปอร์ต เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทาง แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต และ พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งด้านหลังพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ โดยจะพับแบบตอน 2 60:40 พับเรียบแบบ Utility Mode หรือจะพับแบบเพิ่มจุดพับเบาะหน้าด้วย แบบ Long Mode และพับแบบ Tall Mode สามารถยกที่รองนั่งของตอน 2 ขึ้นได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆได้แก่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว  อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพง 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมระบบ Air Diffusion System พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง

    ขุมพลังรักษ์โลกทั้ง 2 รุ่น

    Toyota Corolla Cross GR Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นี้ต่างจาก HR-V ตรงที่เป็นแบตเตอรี่แบบ Nickel-Metal Hydride แบตเตอรี่ใหม่มีขนาดเล็กลง เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วขึ้น และสามารถจ่ายไฟให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง EV MODE SPORT MODE และ ECO MODE

    ส่วน Honda HR-V e:HEV RS เป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบ/นาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบ/นาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบ/นาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบ/นาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า

    โดยเป็นระบบ Full Hybrid ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่และโหมดการขับขี่ Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode และการขับขี่ของระบบเครื่องยนต์ยังมีอีก 3 โหมด ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

    สำหรับการปล่อยไอเสีย CO2 เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร สำหรับ  Honda HR-V e:HEV รุ่น RS และ 98 กรัม/กิโลเมตรสำหรับ Toyota Corolla Cross GR Sport รวมถึงช่วงล่างทั้งสองรุ่นใช้ด้านหน้าแบบ อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ยกเว้น HR-V ที่ไม่มีเหล็กกันโคลงในด้านหลัง แต่สำหรับ Corolla Cross GR Sport มีการปรับเซ็ตช่วงล่างใหม่โดยปรับในส่วน คอยล์สปริงและช็อคแอบซอร์บเบอร์ พร้อมเหล็กค้ำตัวถังด้านล่าง ปรับปรับแต่งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า เน้นความสปอร์ต หนักแน่น มั่นคง พร้อมการบังคับควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำขึ้น ให้ความรู้สึกมั่นใจขึ้น ส่วนพวงมาลัยพาวเวอร์ทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบไฟฟ้า โดยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตรใน HR-V e:HEV RS และ 5.2 เมตรใน Corolla Cross GR Sport

    ความปลอดภัยมาครบ

    Toyota Corolla Cross GR Sport ยกระบบความปลอดภัยมาจากรุ่น Hybrid Premium Safety มาทั้งหมดด้วย Toyota Safety Sense เริ่มที่ Pre-Collision System ความปลอดภัยก่อนการชน Lane Departure Alert With Steering Assist เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control With Lane Tracing Assist ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Automatic High Beams ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Blind Spot Monitor ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนขณะถอยรถ Panoramic View Monitor กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ Hill-Start Assist Control ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Emergency Brake Signal สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกระทันหัน TRC (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี VSC (Vehicle Stability Control) ควบคุมการทรงตัว ABS (Anti-lock Brake System) ระบบป้องกันล้อล็อก Tire Pressure Monitoring System แจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ ถุงลมนิรภัยรอบคัน SRS 7 ตำแหน่ง รวมใต้เข่าคนขับ

    ส่วน Honda HR-V e:HEV RS พกระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing โดยทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

    ครั้งแรกในรถกลุ่มนี้กับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รอบคัน ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) กระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) ถึง HR-V e:HEV RS ให้ข้าวของเยอะกว่า Corolla GR Sport แต่มาเสียท่าตรงที่ระบบกล้องแสดงภาพที่ให้แค่กด้านหลังและส่องมุมกระจกมองข้างด้านซ้ายแต่ทาง Corolla GR Sport กลับให้กล้องมองภาพรอบคันแบบ 360 องศา พร้อมกล้องมองหลัง แค่จุดเดียวเท่านั้น

    สีตัวถังและราคารถ

    Toyota Corolla Cross GR Sport มีแค่ 3 สี สีขาวมุกหลังคาดำ Platinum White Pearl/Black roof (เพิ่มเงิน 15,000 บาท)  สีแดงหลังคาดำRed Mica Metallic/Black roof (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)  และสีดำ Attitude Black Mica ในราคา 1,249,000 บาท

    ส่วน Honda HR-V e:HEV RS มีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)  สีดำคริสตัล (มุก) (เพิ่มเงิน 6,000 บาท)   และ พิเศษสำหรับสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)   ในราคา 1,179,000 บาท

    ถึงแม้ Toyota Corolla Cross GR Sport เปิดตัวมาเพื่อสกัดกั้นความร้อนแรงและป้องกันแชมป์ที่ 1 แต่ผู้ท้าชิงอย่าง Honda HR-V e:HEV RS ยังคงร้อนแรงสร้างยอดจองเป็นจำนวนมากเพื่อหวังโค่นเจ้าตลาดให้ได้ด้วยความใหม่สดตั้งแต่หัวจรดท้ายกับพลัง Hybrid ที่แรงกว่าและสปอร์ตกว่าแต่ทั้งสองรุ่นยังเอกลักษณ์เด่นในหลายๆด้านทั้ง อรรถประโยชน์ และความปลอดภัยที่ให้มาแตกต่างกันแต่และการสัมผัสตัวจริงและทดลองขับเป็นปัจจัยต้นๆที่ทำให้สามารถตัดสินใจจรดปากกาจองรถได้เร็วขึ้น ขอให้โชคดีในการตัดสินใจเลือกคู่หูสักคันนะครับ

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts