ตามปกติทาง Mazda จะขายรถยนต์เอสยูวีที่ลงท้ายด้วยเลขคี่สำหรับตลาดอเมริกาและเลขคู่สำหรับตลาดยุโรป โอชิเนีย และเอเชีย
แตว่า Mazda จีนมาแปลกแหกกฎการตลาดที่วางไว้ เปิดตัว Mazda CX-50 ขายเป็นประเทศที่สองต่อจากสหรัฐอเมริกา หน้าตาไม่ต่างจากสเปกอเมริกาตั้งแต่กระจังหน้าซิกเนเจอร์วิงแนวเข้มมาดเท่ด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED กันชนหน้าทรงเท่พร้อมลุย ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R20 รับกับคิ้วขอบล้อทรงเข้ม ราวหลังคา พร้อมไฟท้าย LED Signature วงกลม และหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ ช่วยเสริมความหล่อขึ้นมาทันทีและมิติตัวรถมีความยาว 4,785 มม. ความกว้าง 1,920 มม. ความสูง 1,638 มม. และฐานล้อ 2,815 มม.
ภายในเรียบง่ายแต่ดุดันกับแผงคอนโซลหน้าที่มีช่องแอร์แนวตั้ง พร้อมจอทัชสกรีนขนาดใหญ่คาดราวๆ 9 นิ้วรองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบความบันเทิง Mazda Connect ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน กับลำโพง BOSE 12 จุด พร้อมมาตรวัดดิจิทัล LCD พร้อมจอ TFT สีขนาดใหญ่ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ พร้อมจอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านและเบาะหลังพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนของมากขึ้น
สำหรับสเปกจีนจะต่างจากสเปกอเมริกาตรงที่ไร้เงาเบนซินเทอร์โบ 2.5 ลิตร SKYACTIV-G Turbo รหัส PY-VPTS โดยให้กำลังสูงสุด 259 แรงม้าที่ 4,250 รอบ/นาที แรงบิด 434 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบนาที แต่จะมีเบนซินธรรมดา 2.5 ลิตร SKYACTIV-G รหัส PY-RPS 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที และเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร รหัส PE-VPR 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
โดยทั้งเบนซิน 2.0 และ 2.5 ลิตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด แต่อาจจะมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบ i-Activ All-Wheel Drive พร้อมโหมดการขับขี่อัจฉริยะ Mi Drive โดยเลือกการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Normal, Sport ,Offroad เบื่องต้น Mazda CX-50 สเปกจีนผลิตที่โรงงาน Changan Mazda ประเทศจีน โดยขายจริงช่วงต้นปี 2023
