หลังจากที่เปิดตัวต้นแบบ MG Cyberster พร้อมทั้งเปิดรับจองให้ชาวไทยได้สัมผัสกันโดยจะเปิดตัวในเวอร์ชั่นขายจริง Production Car
แต่ก่อนที่จะได้พบตัวจริงทางเว็บรถยนต์ต่างประเทศอย่าง Autoweek ได้เผยแพร่ภาพสิทธิบัตรที่ว่ากันนี่คือเวอร์ชั่น Production Car ของ MG Cyberster โรสเตอร์เปิดประทุน 2 ที่นั่ง ที่คล้ายกับต้นแบบแต่ปรับงานดีไซน์งานบางส่วนให้เข้ากับยุคสมัยแถมผสมผสานความเป็น MGB Roadster รถสปอร์ตสุดคลาสสิคเข้าไว้ด้วยกันเริ่มที่ไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว เสริมตัวรถโดยรวมให้ดูมีทรงพลังมากยิ่งขึ้น ด้านท้ายคล้ายต้นแบบแต่มีลักษณะท้ายสั้นหรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร และสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวลงตัวด้วยกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ
ภายในถึงยังไม่มีภาพดีไซน์ออกมาแต่เป็นไปได้ว่ายกชุดจากต้นแบบ ภายใต้รูปแบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางโดยออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกัน และมีแผงมาตรวัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลางให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น แผงคอนโซลหน้าชิ้นเดียวที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกัน ให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรป เบาะรองนั่งแบบ Zero-gravity Seat มือจับหุ้มหนัง สีแดงที่บริเวณแผงประตูลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลัง
สำหรับขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้าที่ยังไม่ระบุออกมาว่าจะมีขนาดความจุแบตเตอรี่ แรงม้า แรงบิด เท่าไหร่แต่สามารถวิ่งไกลสุด 800 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ท ค็อกพิท (Smart Cockpit) และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3
MG Cyberster เวอร์ชั่น Production Car ออกแบบพัฒาโดย MG Advanced Design Center ประเทศอังกฤษ เตรียมเข้าสู่การผลิตจริงในปี 2023 และเมืองไทยเตรียมเข้ามาจำหน่ายด้วยเช่นกัน
ที่มา Autoweek
