More

    Nissan GT-R MY2023 ก็อตซิล่ามาดเข้มคมบาดใจขาซิ่ง

    ด้วยความเป็นตัวแรงแดนปลาดิบทำให้ Nissan ยังยืนหยัดจำหน่ายเจ้าก็อตซิล่าจอมซ่าส์อย่าง Nissan GT-R R35 ต่อไปท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุครถอีวี

    Nissan

    ล่าสุด Nissan แนะนำรุ่นปรับปรุง หรือ MY2023 ให้กับ Nissan GT-R R35 พร้อมสียอดฮิตอย่างสีฟ้า Bayside Blue ที่เคยปรากฏในรุ่นพิเศษ GT-R 50th Anniversary Edition รวมถึงหน้าตาคงเดิมตั้งแต่กระจังหน้าในสไตล์ V-Motion โครเมียมเงาด้านและไส้ในที่เป็นโครงตาข่าย ฝากระโปรงหน้าดีไซน์โหดพร้อมไฟหน้า LED ซ่อนฟังก์ชันปรับความสูงของไฟหน้าแบบ AFS ตัวกันชนหน้ามาพร้อมชุดดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าคาร์บอนแบบ SMC และด้านหลังคาร์บอนคอมโพสิท ไฟท้ายทรงกลม โดนัทแบบ Multi-LED สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรก LED ในตัว เพิ่มความดุดันสะท้อนภาพลักษณ์และกลิ่นอายความเป็นรถแรงขวัญใจขาซิ่ง ด้วยปลายท่อไอเสียไทเทเนียม 4 ชุด ล้ออัลลอยขนาดใหญ่แบบ Super Light Weight ขนาด 20 นิ้ว 15 ก้าน จาก RAYS พร้อมยางรันแฟลต ขนาด 255/40ZRF20 สำหรับล้อหน้า และ 285/35ZRF20 สำหรับล้อหลัง และโลโก้ Nissan เวอร์ชันใหม่

    Nissan

    ภายในตกแต่งเน้นวัสดุหนังมากขึ้นโดยเฉพาะพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านหุ้มหนังสีเดียวกับแผงคอนโซลหน้า แผงประตูและชุดเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ชั้นดี ตัดเย็บด้วยความประณีต กับสีแดง Amber Red ระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว แบบ Display Command Console ติดตั้งตรงแผงคอนโซลกลาง สามารถรองรับ Apple Car Play ได้ แถมเชื่อมต่อ Nissan Connect พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE มากถึง 11 จุด มีระบบตัดเสียงรบกวน ลดจำนวนสวิตช์เหลือเพียง 11 ปุ่ม เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น  พร้อมเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา

    Nissan

    ขุมพลังเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 3.8 ลิตร VR38DETT 565 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดมากสุด 632 นิวตันเมตรที่ 3,300-5,800 รอบ/นาทีเร้าใจมากขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ GR6 6 สปีด โหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง 3 โหมดไม่ว่าจะเป็น โหมด Normal, SAVE และโหมด R เมื่ออยู่ในโหมด R สามารถเปลี่ยนเกียร์ในเวลา 0.15 วินาที พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้าตามความเร็วรถ พร้อมโช้คอัพแบบปรับได้ของ Bilstein Damp Tronic สามารถปรับได้ 3 หมวดทั้ง Normal, Comfort และ R

    Nissan

    Nissan GT-R MY2023 มีจำหน่ายถึงสองรุ่นตั้งแต่รุ่น Premium และ Nismo จำหน่ายที่อเมริกา เริ่มต้น $113,540-$210,740 หรือราว 4,299,000-7,975,000 บาท ราคานี้ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้าแล้วรวมภาษีนำเข้าของจะอยู่ที่ 14,100,000-26,165,000 บาท

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts