More

    Suzuki Ertiga Smart Hybrid เอ็มพีวีพลังไฮบริดพบกันที่ Motor Expo

    ในที่สุด Suzuki สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทยด้วยการแนะนำยานยนต์รุ่นแรกของค่ายที่ใช้ขุมพลังแบบไฮบริด

    Suzuki

    กับ Suzuki Ertiga Smart Hybrid นอกจากจะรุ่นแรกของค่ายแล้วยังเป็นเจ้าแรกในกลุ่มรถอเนกประสงค์ หรือ เอ็มพีวีเล็ก ที่ใช้ขุมพลังไฮบริด แต่ว่าจะเป็น Mild Hybrid หรือ MHEV นอกจากขุมพลังใหม่ หน้าตามีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเริ่มที่ กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่พร้อมคิ้วฝาท้ายดีไซน์ใหม่แนวยาวครอบทับฝาท้าย ส่วนบนแทนตำแหน่งคิ้วกรอบป้ายทะเบียน สัญลักษณ์ Hybrid ท้ายรถ เสาอากาศบนหลังคารถแบบเสาสั้น  กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยวเพิ่มปรับ-พับไฟฟ้ากรณีล็อกหรือปลดล็อกประตูรถ และไฟหน้า Projector เพิ่มระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กับ ไฟส่องสว่างเพื่อการมองเห็นในที่มืด Guide Me Light นอกนั้นเหมือนเดิมตั้งแต่ชุดกันชนหน้าทรงหรูหราพร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยลายทูโทนสองแบบ ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65R 15 ไฟท้าย LED พร้อมไฟหรี่ Light Guiding ในโคมเดียวกัน

    มิติตัวรถคงเดิมตั้งแต่ความยาว 4,395 มม. ความกว้าง 1,735 มม. ความสูง 1,690 มม. ฐานล้อ 2,740 มม. ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 180 มม. แต่น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1,160 กก. (เดิม 1,130 กก.) จากพื้นฐาน HEARTECT

    Suzuki

    ภายในเหมือนกับ Suzuki Ertiga รุ่นเดิมแต่มีการเพิ่มออปชันตั้งแต่ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) รองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลากหลาย เพิ่มระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control ในชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัดหรือ D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ตโฟน และลายไม้สีเข้มใหม่ในชุดแผงประตู แผงคอนโซลหน้าและพวงมาลัยสามก้าน เบาะนั่งผ้าสีทูโทนเทาดำใหม่ มาตรวัดเรืองแสงจอสีฟ้าใหม่ พร้อมจอ MIDขนาด 4.2 นิ้วแบบสี TFT เพิ่มความคมชัดและ ตอบสนองต่อการแสดงผลและประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว และกุญแจรีโมท Keyless Entry สีฟ้า ประตูเปิด-ปิดได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมต

    บนพื้นฐานความสบายดั้งเดิมทั้งความสบายจากเบาะ 7 ที่นั่งที่ทั้งปรับเอนพับได้ 60:40 และเลื่อนได้สุด 240 มม. ในตอนสองและ 50:50 ในตอนสามเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระมากถึง 550 ลิตรและเมื่อพับเบาะตอนสองกับตอนสามจะมีพื้นที่มากถึง 803 ลิตร จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว เชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า พร้อมลำโพง 4 จุด อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง ทันสมัยด้วยระบบ Keyless Push Start

    Suzuki

    ขุมพลังประจำรถคันนี้มาพร้อมเบนซินขนาดเดิม 1.5 ลิตร รหัสเดิม K15B 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พ่วงด้วยการทำงานแบบ Mild Hybrid (MHEV) หรือ SVHS (Suzuki Hybrid Vehicle  System) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Integrated Starter Generator (ISG) ที่ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ถึง 3 แรงม้า แรงบิด 50 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ขนาดเล็กสุด Lithium lon 6Ah 12V

    Suzuki

    สำหรับระบบไฮบริด SVHS (Suzuki Hybrid Vehicle  System) ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ISG (Integrates Starter Generator) เป็นทั้งไดชาร์จและไดสตาร์ทในตัวจะทำการประยุกต์เข้าการทำงานในส่วนต่างๆเพื่อเก็บพลังงานที่เหลือจากการขับขี่มาใช้งานเช่นขณะถอนคันเร่งหรือเบรก มาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้ากักเก็บไว้ใช้งานในแบตเตอรี่และเครื่องยนต์หยุดการทำงานรวมถึงตอนออกตัว ส่วนการขับขี่ปกติและเร่งแซงเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน มีระบบเพิ่มแรงบิดชั่วคราวเพื่อให้ความมั่นใจในการแซง หรือ Torque Assisted Function ตอบสนองสมรรถนะการขับขี่และมีระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ Auto Start/Stop เพื่อเพิ่มความประหยัดมากขึ้น

    และความปลอดภัยคงเดิมทั้ง โครงสร้างนิรภัย TECT โครงสร้างตัวถัง NVH ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเตือนทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ควบคุมการทรงตัว ESP เบรก ABS พ่วงกระจายแรงเบรก EBD ช่วยออกตัวบนทางชัน Hill hold control ยับยั้งการสตาร์ทด้วยกุญแจรถปลอม Immobilizer กันขโมยและจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX

    Suuzki Suzuki

    Suzuki Ertiga Smart Hybrid ขายเพียงสองรุ่นย่อยทั้งรุ่น GL กับ GX พร้อมสีภายนอกสี่สีตั้งแต่สี สีขาวมุก Pearl Snow white (ZQZ) สีบอรนซ์เงิน Metallic Magma gray (ZYZ) สีดำ Cool Black Metallic (ZBD) และสีแดงใหม่ Mellow Deep Red (WBD) คาดว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 729,000 และ 799,000 บาท โดยราคาระดับนี้จะเป็นจริงหรือไม่ติดตามตำตอบได้ ที่งาน Motor Expo 2022 ช่วงวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts