More

    ประโยชน์ของการ เคลือบเซรามิก เคลือบแก้วรถยนต์ ในช่วงฤดูฝน

    สภาพอากาศในบ้านเราช่วงหน้าฝน มีสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งแบบที่มีทั้งฝนตกอย่างต่อเนื่องสลับกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ซึ่งนั่นเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับสีรถยนต์ได้ เนื่องจากน้ำฝนนั้นมีกรดอ่อนๆ สามารถทำร้ายสีรถยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลได้ในระดับที่ก่อให้เกิดความเสียหาย วันนี้เราจึงมานำเสนอตัวเลือกในการดูแลสีในช่วงฤดูฝน ด้วยการเคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว นี้กันดูครับ

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    การเคลือบแก้ว คืออะไร ?
    การเคลือบแก้ว (Glass Coating) คือการใช้นำยาเคลือบแข็งที่มีสารซิลิก้า (Silica) เป็นส่วนผสมมาเคลือบผิวรถ โดยตัวสารจะมีระดับความแข็งตั้งแต่ 1H-9H เมื่อโดนอากาศจะแข็งตัวและกลายเป็นชั้นฟิล์ม ช่วยป้องกันคราบต่าง ๆ เช่น ฝุ่น หรือรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้อย่างดี นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่สามารถเพิ่มความมันวาวให้พื้นผิว เมื่อเคลือบแก้วแล้วจึงดูสวยงาม

    การเคลือบเซรามิก คืออะไร ?
    การเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) คือการเคลือบผิวรถด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแล็กเกอร์ และน้ำยาพิเศษที่มีส่วนผสมของซิลิคอน คาร์ไบด์ SIC ( Silicon Carbide) ที่มีความแข็งระดับ 9H ถูกออกแบบให้มีความคงทน สร้างความเงางาม ต้านสารเคมี และป้องกันคราบสกปรก รวมถึงรอยต่าง ๆ โดยมีอายุการใช้งานขั้นต่ำประมาณ 3 ปี

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    ปัญหารถสีขาวหน้าฝน
    กรณีรถสีขาว สิ่งที่เราพบเห็นได้ง่ายก็คือ นอกจากคราบฝนกรดแล้ว ยังจะเป็นที่สะสมของมลภาวะที่ฝังแน่น เนื่องจากความเป็นกรดของน้ำฝน นอกจากจะไปกัดกร่อนชั้น Clear Coat (หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าแลคเกอร์) แล้ว ยังเป็นตัวเปิดทางให้มลภาวะต่างๆแทรกซึมเข้าไปเล่นงานบนชั้นสีได้ง่ายขึ้น จึงทำรถสีขาวถูกคราบไคลเล่นงาน และมันกลายเป็นคราบสกปรกฝังลึกในที่สุด

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    ปัญหารถสีดำหน้าฝน
    กรณีรถสีดำ เมื่อถูกน้ำฝนแล้วไม่ได้ทำความสะอาดออกและทำการเคลือบสิ่งใดเพื่อปกป้อง (เช่น การเคลือบแวกซ์ หรือ เคลือบแก้ว) เมื่อทิ้งไว้สักระยะ จะทำให้เกิดคราบฝนกรดบนชั้น Clear Coat ซึ่งมันจะขึ้นเป็นคราบขาว เป็นดวงๆ และมันมีสภาพไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย… นอกเหนือจากความร้อนจากภูมิอากาศของบ้านเรา ที่ทำให้มลภาวะต่างๆแทรกซึมได้ดีแล้ว สีดำก็ทำหน้าที่ดูดความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกเช่นกัน และนั่นก็ยิ่งทำให้มลภาวะที่สามารถทำลายสีรถเหล่านั้นยิ่งฝังแน่นมากขึ้นไปได้อีกด้วย

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    ดังนั้น พอหมดหน้าฝน จึงเห็นผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะต้องจ่ายก้อนโตไปในการขัดสี หรือ บางคันที่ไม่ขัดสี ไม่ฟื้นฟูสภาพ และปล่อยเอาไว้นานไป สีรถก็เสื่อมสภาพไปในที่สุด ไม่สามารถฟื้นฟูสภาพสีรถยนต์ให้กลับมาเงาใสสวยงามได้เหมือนอย่างเดิมได้อีกเลย

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    เคลือบแก้วหน้าฝนมีประโยชน์อย่างไร
    ผู้ใช้รถยนต์จะเบาใจขึ้น หากรู้ว่า เมื่อรับบริการเคลือบแก้วไปแล้วจะช่วยให้หน้าฝน ผ่านไปโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสีรถยนต์ ในเรื่องต่อไปนี้

    1. เนื่องจากทำ เคลือบแก้ว แล้ว effect หนึ่งในการ self-cleaning effect (การรักษาความสะอาดด้วยตัวเอง) คือ Super hydrophobic effect หรือเรียกว่าไม่ชอบน้ำ นั่นจะช่วยลดการจับตัวของฝนกรดได้เป็นอย่างดี หรือหากขับรถฝ่าฝนก็จะเปรียบเสมือนการล้างรถไปในตัว

    2. ไม่สูญเสียชั้น clear coat หรือชั้นแลคเกอร์ เนื่องจากมีชั้น เคลือบแก้ว หรือชั้นเซรามิคคอยปกป้องชั้นแลคเกอร์และสีจริงอยู่ หากเกิดมลภาวะขึ้นมา ก็จะไม่เป็นการไปทำลายชั้นแลคเกอร์แต่อย่างใด(ทั้งนี้ควรสอบถามศูนย์บริการในเรื่องการรับประกันคราบฝนกรดก่อนเข้ารับบริการ เคลือบแก้ว กับทางร้านด้วย

    3. เสริมทัศนะวิสัยขณะขับรถ เนื่องจากแพคเกจการ เคลือบแก้ว ของทางร้าน Albatros นั้นเสริมการเคลือบกระจกไล่น้ำ พร้อมการรับประกันหลังการขายให้อีกด้วย เมื่อขับรถฝ่าฝนจะทำให้น้ำหดตัวอย่างรวดเร็วไม่เกาะกระจก จนแทบไม่ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนเลย

    เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว

    ทั้งนี้ ก่อนเลือกศูนย์บริการเคลือบเซรามิก เคลือบแก้วในช่วงหน้าฝน จำเป็นต้องถามรายละเอียดการให้รอบครอบ ว่าทำอะไรและ อย่างไรให้บ้าง รวมถึงเงื่อนไขการรับประกันและการดูแลหลังการขาย ในการที่เราจะทำ เคลือบแก้ว กับเขา เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุน เคลือบแก้วปกป้องสีรถยนต์ นั้นตอบโจทย์ตามความเหมาะสมในการใช้รถของแต่คนได้อย่างแท้จริง


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts