ลืมเรื่องเกี่ยวกับ BMW ซีรีส์ 7 ที่ว่า BMW จะใช้เทคโนโลยีระดับเรือธงใหม่ล่าสุดไปได้เลย เพราะว่านี่คือรุ่นที่ใหญ่กว่า ทุกอย่างเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า และมีระบบกึ่งช่วยขับ จนถึงตอนนี้ ที่เรารู้ก็คือมันจะใช้ชื่อว่า iNext แล้วก็เปลี่ยนจากรถคอนเซ็ปต์ต้นแบบไปเป็นรถที่เข้าสู่กระบวนการผลิตจริงในชื่อที่น่าจดจำกว่า นั่นก็คือ iX
รูปรถ SUV ที่คุณเห็นก็คือการพัฒนาการล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์แห่งแค้วนบาวาเรีย โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรีที่มีการพัฒนาไปมากกว่ารุ่นก่อน ที่ถือเป็นความภูมิใจที่สุดของบริษัทผู้ผลิตก็คือความก้าวหน้าของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและเทคโนโลยีในแบบดิจิตัลต่างๆ
ในส่วนของภายนอกรถ iX มันมีความยาวเท่ากับรุ่น X5 สูงเท่ากับ X6 และล้อขนาดเดียวกับ X7 เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่การแปลงโฉมมาเป็น SUV ที่รูปร่างเพรียวแต่เพียงอย่างเดียว แต่ว่าแบรนด์จากเมืองมิวนิคได้ตอกย้ำดีไซน์แบบมินิมอลให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีก
แม้ว่ากระจังหน้าขนาดใหญ่จะไม่อยู่ในรูปแบบมินิมอล แต่ด้วยดีไซน์นั้นมีคอนเซ็ปต์และฟังก์ชั่นการใช้งาน ภายใต้กระจังหน้านั้นติดตั้งเซ็นเซอร์ กล้อง เรดาร์ เทคโนโลยีช่วยเหลือคนขับเอาไว้
สำหรับ iX ของ BMW รุ่นแรกที่ผลิตออกมานั้นมีพวงมาลัยรูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งทางบริษัทบอกว่ามันช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นหน้าจอแสดงข้อมูลบนรถได้ดีขึ้น ที่น่าสนใจในห้องโดยสารอีกอย่างก็คือ ปุ่มควบคุมเก้าอี้ไฟฟ้าที่ย้ายไปอยู่ที่ประตู
พลังขับเคลื่อนของ SUV คันนี้นับเป็นเจเนเรชั่นที่ 5 ของรถไฟฟ้าที่ผลิตโดย BMW แล้ว มันมีพลังมากกว่า 500 ม้า หรือ 375 กิโลวัตต์ เรียกได้ว่ามากเพียงพอสำหรับ iX ที่จะเร่งเครื่องไป 62 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-100 กม./ชม.) ภายในเวลา 5 วิ
ต้องขอบคุณพลังแบต 100 กิโลวัตต์ ที่พารถวิ่งไปได้ในระยะทาง 300 ไมล์ จากการทดสอบโดย EPA’s FTP-75 แล้วก็ 600 กิโลเมตร ที่ทดสอบโดย Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย ซึ่งทางผู้ผลิตรถยังมีการพัฒนาอยู่อีก มันอาจจะมีการปรับเปลี่ยนอีกก็ได้
การชาร์จของ iX สะดวกขึ้นอีก ใช้เวลาเพียง 40 นาทีก็ได้ 70% แล้ว แล้วยังมีระบบชาร์จเร็วแค่ 10 นาที ก็สามารถใช้ได้ 75 ไมล์ (120 กิโลเมตร)
ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอนว่า iX จะผลิตจริงเมื่อไหร่ แต่ทาง BMW น่าจะเริ่มกระบวนการผลิตในครึ่งหลังของปี 2021 ที่โรงงานในดินโกลฟิง เพื่อที่จะให้พร้อมขายตอนปลายปี 2021
source : motor1