More

    การจำกัดงบจะทำให้ทีมแข่ง F1 แข่งไม่ครบทุกสนามจริงหรือ?

    เรียกได้ว่าขยันสร้างคอนเทนต์เหลือเกินสำหรับ Red Bull Racing เริ่มตั้งแต่ที่พวกเขาเรียกร้องให้มีการเพิ่มน้ำหนักขั้นต่ำรถขึ้น เนื่องจากมีหลายทีมรวมทั้งพวกเขาที่ไม่สามารถทำรถให้อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักขั้นต่ำได้ มาล่าสุดหน่อยที่ Monaco Grand Prix ช่วงควอลิฟาย Charles Leclerc นั้นขับเลยตาชั่งที่ FIA เรียกสุ่มตรวจ ทำให้ทีมงานต้องเข็นรถถอยหลังกลับไปที่ตาชั่ง ซึ่ง Dr. Helmut Marko ที่ปรึกษาของทีมให้ความเห็นว่า Leclerc สมควรถูกลงโทษจากความผิดพลาดในครั้งนี้ และอีกประเด็นที่ทีมบอส Red Bull, Christian Horner ออกมาจุดคือ ทีมแข่ง F1 จะไปไม่รอดในการแข่งขันให้ครบทุกสนาม หาก FIA ยังคงจำกัดงบประมาณอยู่

    Horner นั้นออกมาชี้ให้เห็นว่า อาจมีทีมแข่งถึง 7 ทีม ที่อาจจะต้องชวดการแข่งขันใน 4 เรซสุดท้าย เพื่อให้สามารถทำทีมให้อยู่ในงบที่ FIA จำกัดไว้

    “เราจำเป็นต้องให้ FIA จัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ เพราะผมคิดว่าอาจมีถึง 7 ทีม ที่ต้องพลาดการแข่งขันใน 4 เรซสุดท้าย เพื่อทำงบประมาณทีมให้อยู่ในวงจำกัดในปีนี้” Horner กล่าว

    “และไม่ใช่เพียงแค่ทีมใหญ่เพียงอย่างเดียวที่กำลังเจอปัญหา ทีมขนาดกลางเองก็กำลังมีปัญหากับอัตราเงินเฟ้อ และมันเป็นปัญหาที่น่าจะแย่ลงไปอีกในช่วงครึ่งหลังของปี”

    christian horner

    หากมีการผลักดันให้การจำกัดงบประมาณถูกเพิ่มขึ้น มันจะต้องอาศัยเสียงส่วนมากในการโหวตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายถึง 8 ใน 10 ทีมแข่ง จะต้องเห็นพ้องต้องกัน

    ในปีนี้งบประมาณการทำทีมนั้นถูกจำกัดไว้ที่ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ และด้วยอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ที่พุ่งขึ้นเกินกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่ามันจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 8.4 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างเช่น McLaren นั้นกำลังรันทีมด้วยค่าใช้จ่ายที่เต็มจำนวนงบที่ถูกจำกัด เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่ง, ค่าสาธารณูปโภค, ต้นทุนวัสดุบางอย่าง, และ ด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาพลังงานซึ่งเพิ่มขึ้นเกินกว่านั้นไปอีกในความเป็นจริง

    คำพูดของ Horner อาจจะฟังดูทีเล่นทีจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันได้สะท้อนความเป็นจริงที่ทีมแข่งกำลังเผชิญอยู่ หากค่าใช้จ่ายยังคงเพิ่มขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งทางทีมก็จะต้องดำเนินการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งนั่นรวมถึงการลดเงินเดือนพนักงานหรือถึงขั้นให้ออก

    Mercedes, Aston Martin, และ Ferrari เป็นทีมที่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เมื่ออ้างอิงจากสิ่งที่พวกเขาออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ และนั่นอาจรวมถึง McLaren ที่ถึงแม้ว่าค่ายจากโวกกิ้งจะสนับสนุนการจำกัดงบก็ตาม

    ก่อนหน้านี้งบประมาณที่ถูกจำกัดนั้นถูกตั้งไว้อยู่ที่ 175 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ได้ลดลงเหลือ 145 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่มีการระบาดของโควิดมาเป็นเวลา 2 ปี และลดลงไปอีกเหลือ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2022

    ทางด้านทีมบอส McLaren, Andreas Seidl กล่าวไปในทิศทางเดียวกันบอส Red Bull ว่า ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำทีมให้อยู่ในงบประมาณที่ถูกกำหนด เมื่อคำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

    “มันชัดเจนสำหรับเรา การผูกติดอยู่กับงบประมาณที่ถูกจำกัดเป็นอะไรที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับวงการ และมันไม่ได้เป็นความลับอะไรที่เรานั้นพยายามผลักดันการจำกัดงบประมาณให้ได้ตัวเลขที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” Seidl ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อ The Race

    “แต่เมื่อคุณดูบิลค่าสาธารณูปโภคของเราและค่าขนส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพูดคุยกันระหว่างทีมแข่งและ FIA เพื่อหาทางออกที่ยุติธรรมที่สุดกับทุกฝ่าย”

    “เรากำลังเข้าสู่ครึ่งฤดูกาล ทุก ๆ คนนั้นเตรียมตัวสำหรับการจำกัดงบ แต่เมื่อคุณดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้งบอยู่ภายในที่ถูกกำหนด นั่นจึงเป็นเหตุให้ผมคิดว่า มันยุติธรรมที่จะต้องมีการพูดคุยกันระหว่างทีมเพื่อหาทางออก มันยุติธรรมที่จะเพิ่มเพดานงบประมาณ บางทีอาจจะระบุค่าใช้จ่ายในส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วน ๆ ไป”

    สำหรับ Alpine เป็นทีมที่กำลังปฏิบัติการอยู่ต่ำกว่างบประมาณที่ถูกจำกัด และเมื่อได้ฟังความเห็นจากทีมบอส Red Bull, Otmar Szafnauer ทีมบอส Alpine ก็กล่าวอย่างติดตลกว่า ถ้ามีการขยับงบประมาณขึ้นจริง นั่นก็จะช่วยให้ Alpine มีผลงานดีขึ้นแน่นอน และพวกเขาน่าจะวางแผนแบบทีมอื่นแต่แรก

    otmar การจำกัดงบ F1
    ที่มาภาพ : planetf1.com

    “เราไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น เราตั้งงบประมาณของเราไว้ตั้งแต่แรก เราคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อไม่ได้มีปัญหากับเรา ถ้าคุณมองกลับไปยังเดือนธันวาคม ในตอนนั้น RPI ได้พุ่งแตะระดับที่ 7 เปอร์เซ็นต์ และทีมต่าง ๆ ก็คำนวณงบประมาณทีมในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมในปีที่ผ่านมา” Szafnauer กล่าว

    “ดังนั้นสำหรับเรา เราไม่แปลกใจ เราวางแผนไว้แล้ว เรายังรันทีมได้ต่ำกว่างบประมาณที่ถูกจำกัดไว้ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้วางแผนสำหรับค่าขนส่งทางอากาศที่พุ่งสูงขึ้นขนาดนี้ และถ้าเราทำได้ แน่นอนว่าทีมอื่นก็ทำได้”

    Szafnauer ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า หากค่าใข้จ่ายส่วนอื่นสูงขึ้น ก็แค่บริหารค่าใช้จ่ายในการพัฒนาใหม่ “มันมีเงินจำนวนมากที่อยู่ในงบประมาณในการพัฒนาในแต่ละปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีแรกของการใช้กฎด้านเทคนิคใหม่”

    “คุณโปรยเงินจำนวนมากไปกับการพัฒนา เพราะแน่นอนว่าในปีนี้เป็นการแข่งขันกันพัฒนา ดังนั้นเมื่อค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้น 2.5-3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่งบประมาณในการพัฒนาของคุณอยู่ที่ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ คุณจะหักงบการพัฒนาเหลือ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ยังคงดำเนินงานภายใต้งบที่ถูกกำหนดไม่ได้หรือ ? คุณทำได้สิ”

    “แต่มันก็คงง่ายกว่าแหละ ถ้าคุณมีเงิน คุณก็แค่เดินไปล็อบบี้ FIA ให้เพิ่มงบประมาณ เพื่อที่คุณจะยังคงได้ใช้เงินในการพัฒนาเท่าเดิม” บอส Alpine ทิ้งท้ายไว้อย่างแสบสัน

    mike krack
    ที่มาภาพ : planetf1.com

    มาดูความเห็นจากทางฝั่ง Aston Martin กันบ้าง Mike Krack ทีมบอสของค่ายยักษ์เขียวแย้งว่า สิ่งที่ Horner พูดอาจจะโอเวอร์เกินจริงไปบ้าง อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปัจจุบันก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะเพิ่มงบประมาณขึ้น

    “มันอาจจะเกินจริงไปหน่อยที่ทีมแข่งจะถึงขั้นไม่อาจลงแข่งขัน ผมไม่คิดว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น” Krack กล่าว “การเพิ่มเพดานงบประมาณนั้นไม่ควรทำเพียงเพราะใครบางคนไม่สามารถบริหารค่าใช้จ่ายภายใต้การควบคุมได้ แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนขับเคลื่อนให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายขนส่งทางอากาศนั้นพุ่งสูงขึ้นมาก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณไม่อาจวางแผนล่วงหน้าไว้ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราสนับสนุนการเพิ่มเพดานงบประมาณ”

    ถึงแม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งจากทั้ง 2 ฝั่ง แต่ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่ F1 ปรารถนาที่จะพิจารณาวิธีการแก้ไขข้อบังคับทางการเงิน เพื่อพิจารณาความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจคงอยู่ต่อไปในอนาคต ซึ่งกุญแจสำคัญคือ การแก้ไขโดยที่ไม่ทำให้ข้อกำหนดด้านงบประมาณพุ่งทะยานขึ้น

    อ้างอิง : the-race.com


    บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts