Toyota ปรับลดความคาดหวังสำหรับปีงบประมาณที่กำลังจะมาถึง แม้ว่าจะพึ่งทำตัวเลขกำไรเป็นสถิติใหม่ที่ 24,610 ล้านเหรียญสหรัฐ
Toyota ได้ออกมาพูดถึงความกังวลต่าง ๆ ในระหว่างงานแถลงข่าวผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัท โดยค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ต้นทุนวัตถุดิบอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีความน่ากังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นเหตุให้เป็นเรื่องยากที่จะทำการคาดการณ์ในระยะสั้น
“ปัจจัยเหล่านี้จะหลอมรวมกัน ในปีงบประมาณนี้จะเป็นปีที่ยากต่อการคาดการณ์กว่าปีไหน ๆ” Jun Nagata ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารของ Toyota กล่าว
Toyota กล่าวเสริมด้วยว่า ราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกำไรอย่างหนัก โดย Masahiko Maeda ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Toyota ระบุว่า ยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าร่วมจะได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง Maeda ยังได้ยอมรับว่า ทางค่ายผู้ผลิตจะพยายาม “ยับยั้ง” ในการส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นให้กับลูกค้าด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น โดยระบุว่าอาจจะมีเพียงตลาดบางกลุ่มเท่านั้นที่จะถูกปรับราคาขึ้น
ค่ายผู้ผลิตจากญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าร่วมเป็นจำนวน 3.07 ล้านคัน สำหรับปีงบประมาณจนถึงเดือนมีนาคม 2023 ในจำนวนนี้ประมาณ 2.85 ล้านคัน จะเป็นรถไฮบริดอย่าง Prius และ RAV4 Hybrid ในขณะที่ BEV จะมียอดขาย 95,000 คัน
ผลกำไรล่าสุดของ Toyota นั้นได้รับแรงหนุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ดีและต้นทุนทางการตลาดที่ลดลง ซึ่งช่วยชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับวัตถุดิบและค่าขนส่ง อย่างไรก็ตามประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Kenta Kon กล่าวว่า ในอีก 12 เดือนข้างหน้านั้นพวกเขาน่าจะพบกับความยากลำบากมากขึ้น โดยจะสังเกตได้ว่ากำไรจากการดำเนินการและรายได้สุทธิจะลดลง นอกจากนั้นเขายังได้กล่าวเสริมอีกว่า Toyota จะพยายามปกป้องซัพพลายเออร์จากการขึ้นราคาของวัตถุดิบโดยการแบกรับต้นทุนเพิ่มเติมเอง
ในปีงบประมาณจนถึงวันที่ 31 มีนาคม Toyota ได้เพิ่มการผลิตขึ้น 6.2 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10.06 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเร่งการผลิตเพื่อฟื้นตัวจากผลผลิตที่สูญเสียไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทางค่ายจะชะลอการผลิตและ “ตั้งใจหยุดการผลิต” ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน
อ้างอิง : carscoops.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
