More

    อย่าเพิ่งช็อค!! ถ้ารถคุณโดนน้ำท่วม..ลองทำตามนี้ดูก่อน!!

    จมบาดาลกันไปทั้งเมือง!! กับฝนที่โหมกระหน่ำอย่าหนักเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยเฉพาะวิดีโอรถถูกน้ำท่วมอย่างหนักที่มีการแชร์กันมากมาย ภาพที่เห็นมันน่าตกใจเพราะเหมือนคลื่นชายฝั่งที่กำลังซัดเข้าหาทั้งรถเล็กรถใหญ่ให้จมลงสู่”น้ำรอระบาย” ที่มีระดับสูงเกือบครึ่งคัน

    สำหรับผู้ที่ประสบเหตุน้ำท่วมไม่ว่าจะส่วนไหนของเมืองกรุงฯหรือที่ไหนก็ตาม อย่าเพิ่งตกใจไป..เพราะความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือต้องตั้งสติแล้วคิดต่อว่าเราควรทำอย่างไงต่อไปกับรถของเราดี ทีมงาน Car2day เราจึงนำวิธีรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมรถมาฝากกัน เผื่อใครประสบเหตุจะได้นำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปลองทำกันดู 

    ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้น เมื่อรถโดนน้ำท่วม

    • เมื่อเห็นรถตัวเองจมอยู่ในน้ำจงตั้งสติแล้วโทรหาประกันภัยก่อน (ถ้ามี) แต่ถ้าเป็นรถที่ไม่มีประกันหรือทำประกันประเภทที่ไม่คุ้มครองคงต้องทำใจรับกับค่าเสียที่เกิดขึ้น และทำขั้นตอนถัดไปเพื่อช่วยลดความเสียหายได้ไม่มากก็น้อย
    • ในกรณีที่น้ำท่วมสูงถึงเบาะนั่งนั้น เมื่อนำรถขึ้นจากน้ำแล้ว ห้ามสตาร์ทรถหรือบิดกุญแจไปที่ ON โดยเด็ดขาด เพราะระดับความสูงของน้ำจะสร้างความเสียหายภายในห้องเครื่องยนต์ จึงควรถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันที และตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ เช่นพัดลมระบายความร้อน ซึ่งสำคัญมากสำหรับการถ่ายเทความร้อนของห้องเครื่อง หรือกล่อง ECU ที่เป็นสมองกลไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์
    • ระบบเกียร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรทำการล้างเอาน้ำมันและน้ำออกให้หมด เช่นเดียวกับเฟืองท้าย ซึ่งปัจจุบันรถรุ่นใหม่ส่วนมากในตอนนี้ก็จะไปอยู่ข้างหน้าแล้ว กับพวกทรานสเฟอร์ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยว่า ทั้งสองอย่างนี้มีรูระบายอากาศ น้ำจึงเข้าไปได้ รวมถึงพวกของเหลว ระบบหล่อลื่นต่างๆของรถ และควรทำการไล่ความชื้นออกจากตัวรถ
    • สุดท้ายควรล้างทำความสะอาดระบบเบรก และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเสียใหม่ เพราะรถที่จอแช่น้ำไว้น้ำจะเข้าไปทำความเสียหายให้ระบบเบรกได้ จึงควรให้ความสำคัญกับตรงนี้เช่นกัน

    สิ่งจำเป็นที่ต้องตรวจเช็คหลังขับผ่านถนนน้ำท่วมสูงและรถโดนน้ำท่วม

    • ระบบไฟฟ้าและกล่อง ECU อย่างที่เข้าใจกันอยู่แล้วว่า ระบบไฟฟ้ากับความชื้นเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเมื่อรถผ่านการขับลุยน้ำมาอุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการดูแลโดยการไล่ความชื้นในระบบ เรามีข้อแนะนำว่าต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการดูและเท่านั้น นอกจากนี้รถรุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบเทคโนโลยีเยอะย่อมมีกล่อง ECU เยอะเช่นกันแนะนำให้เข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการเพื่อความแน่ใจ
    • เครื่องยนต์และเกียร์ ในการลุยน้ำที่มีความลึกค่อนข้างมาก สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือน้ำเข้ากรองอากาศ เพราะถ้าเกิดน้ำเข้าไปเราบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ต้องถอดประกอบเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมดเพื่อทำความสะอาด ซึ่งอาจจะรวมถึงชุด “หัวเทียน” ที่จะเสื่อมสภาพจากสภาวะความชื้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้องเช็คน้ำมันเกียร์ว่าสีเปลี่ยนไปไหม ถ้าเปลี่ยนไปอาจเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะซึมเข้าไปอย่างแน่นอนต้องถ่ายเปลี่ยนออก ส่วนพวกเซนเซอร์เครื่องยนต์ต่างๆ ก็ต้องเช็กใหม่ทั้งหมดด้วยเพื่อป้องกันการอ่านค่าที่ผิดเพี้ยน
    • ตรวจเช็คภายในรถ ในการที่เราขับรถผ่านถนนที่มีน้ำสูงกว่าขอบประตูด้านล่างหรือมีการหยุดนิ่งเป็นเวลานานในพื้นที่น้ำท่วมขัง เราควรตวรเช็คพื้นที่ด้านในรถว่ามีน้ำเข้าหรือไม่ ใครที่ชะล่าใจว่ารถสามารถลุยน้ำได้ถึง 40 เซ็นติเมตรเพราะเลขเคลมจากค่ายผู้ผลิต บอกตรงๆ เลยว่านั่นคือตัวเลขขับรถลุยผ่านไม่ใช่จอดนิ่งๆ (แต่ถ้าจอดหยุดนิ่งนานๆ บอกเลยเข้าแน่นอน) เพราะยางกันน้ำรอบรถสามารถกันน้ำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อขับรถลุยน้ำทุกครังให้เปิดผ้ายางออกเช็คพื้นพรมดูดีๆ ว่าเปียกชื้นหรือไม่ เพราะถ้าลุยน้ำสูงก็จะมีโอกาสที่น้ำจะซึมเข้ามาได้ ถ้ามีน้ำขังอยู่ภายในห้องโดยสาร ให้เข้าร้านทำความสะอาดโดยทันที เพื่อป้องกันราและเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการอับชื้น

    credit vdo : fb.เกาะติดสถานการณ์และอุบัติเหตุ

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts