EU กำลังเดินหน้าเต็มระบบในการทำตามแผนที่จะยกเลิกการขายรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ภายในปี 2035 อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อตกลงใหม่ที่ EU ยกเว้นไว้สำหรับรถที่ใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์หรือ e-fuel นั่นจึงเหมือนเป็นการต่อชีวิตให้กับซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์สันดาปของ Ferrari
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา EU และ เยอรมนี ได้บรรลุข้อตกลงอนุญาตให้มีการขายรถเครื่องยนต์สันดาปรุ่นใหม่หลังปี 2035 โดยมีข้อกำหนดว่า พวกมันจะต้องใช้เชื้อเพลิงที่มี CO2 เป็นกลางเท่านั้น ทำให้มันมีเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ค่อนข้างจะหลากหลายให้เลือก เช่น e-kerosene, e-methane, หรือ e-methanol
สำหรับ Ferrari แล้ว นี่คือข่าวดีสำหรับพวกเขาซึ่งเป็นค่ายผู้ผลิตรถที่มีความผูกพันกับเครื่องยนต์สันดาปอย่างแนบแน่น และพวกเขายังเป็นค่ายที่มีการวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงสังเคราะห์มาอย่างต่อเนื่อง
“นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับเราในฐานะบริษัท เพราะนอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว เรายังสามารถดำเนินการกับเครื่องยนต์สันดาปภายในของเราได้ด้วย การตัดสินใจครั้งนี้น่าสนใจมาก เพราะจะช่วยให้ ICE สามารถก้าวข้ามผ่านปี 2036 ไปได้” Benedetto Vigna, CEO ของ Ferrari กล่าวกับสื่อ Reuters
ในขณะเดียวกัน Ferrari ก็จะไม่ปรับแผนธุรกิจใหม่เพียงเพราะว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ขายเครื่องยนต์สันดาปต่อไป โดยพวกเขามีแผนในการใช้พลังงานไฟฟ้าของกลุ่มผลิตภัณฑ์ SF90 และ 296 GTB รองรับอยู่แล้ว
Vigna กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงจะดำเนินต่อไป เนื่องจากความปรารถนาของทางค่ายที่ต้องการให้ลูกค้ามีอิสระในการเลือก “สิ่งนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราไม่ต้องการบอกลูกค้าว่าพวกเขาควรใช้รถคันไหน เราต้องการสร้างระบบขับเคลื่อน 3 แบบ สำหรับพวกเขา – ไฮบริด, ไฟฟ้า, และ ICE – และพวกเขาจะเป็นผู้เลือกเอง”
แน่นอนว่า CEO ของ Ferrari ยังคงคำนึงถึงแผนการทางการเงินของบริษัทด้วย โดยการหลีกหนีจากการใช้พลังงานไฟฟ้าอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรได้ ซึ่งทำให้ค่ายผู้ผลิตรถจากอิตาลีได้กำหนดกลยุทธ์และแผนการในปัจจุบันด้วยความรู้ที่ว่า เครื่องยนต์สันดาปภายในนั้นได้ถูกยืดอายุการใช้งานออกไป
“ตัวเลขที่ผมเคยให้ไว้ (ในปีที่แล้ว) – 4,400 ล้านยูโร สำหรับการลงทุนในช่วงปี 2022-2026 – นั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้เราเดินหน้าด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าและ ICE ที่เข้ากันได้กับ e-fuel” Vigna กล่าว
สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าเราจะยังคงได้ยินเสียงเครื่องยนต์อันไพเราะของ Ferrari ต่อไป อย่างน้อยก็อีกหนึ่งศตวรรษ
อ้างอิง : carscoops.com