นับว่าเป็นข่าวใหญ่ของ F1 ณ เวลานี้เลยทีเดียว เมื่อ Ford บริษัทผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่ประกาศร่วมมือกับ Red Bull และทีมลูก AlphaTauri ลุยศึก F1 นับตั้งแต่ปี 2026 ปีที่จะริเริ่มใช้กฎเครื่องยนต์ใหม่
ก่อนหน้านี้ สื่อ Motorsport.com ได้รายงานคาดการณ์ถึงความร่วมมือระหว่าง Ford กับ Red Bull มาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นสถานการณ์ของทีมลูก AlphaTauri ยังคงไม่มีความชัดเจนเท่ากับทีมแม่ Red Bull เนื่องจาก Honda เองก็ได้ลงทะเบียนแสดงความสนใจในการผลิตเครื่องยนต์ปี 2026 จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าพวกเขาจะทำอะไรบางอย่างกับ AlphaTauri
แต่ในที่สุด Ford ก็ได้ยืนยันการเป็นพันธมิตรกับ Red Bull Powertrains ในระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัว RB19 ที่นิวยอร์ก โดยค่ายรถสัญชาติอเมริกันระบุอย่างชัดเจนว่า ข้อตกลงนั้นจะเป็นการสนับสนุน 2 ทีมในสังกัดของแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง
มีการคาดการณ์กันว่า Ford จะช่วยเหลือ Red Bull ในเรื่องของการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป เช่นเดียวกับฝั่งไฟฟ้าอย่าง เซลล์แบตเตอรี่, มอเตอร์ไฟฟ้า, และ องค์ประกอบทางซอฟต์แวร์อื่น ๆ
นอกจากนี้ การเป็นพาร์ทเนอร์ของทั้งสองทำให้พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนชื่อแบรนด์เครื่องยนต์ตัวใหม่จาก Red Bull Powertrains เป็น Red Bull Ford Powertrains และจะเป็นพันธมิตรกันอย่างน้อยก็ถึงปี 2030
ทีมบอส Red Bull, Christian Horner เชื่อว่า การเป็นพันธมิตรกับ Ford นั้นจะช่วยส่งเสริมความทะเยอทะยานของทีมในระยะยาว
“มันวิเศษมากที่ได้ต้อนรับ Ford กลับเข้าสู่การแข่งขัน Formula 1 ผ่านความร่วมมือในครั้งนี้” Horner กล่าว “ในฐานะค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์อิสระ เราจะได้รับประโยชน์จาก OEM ที่มีประสบการณ์สูงอย่าง Ford ซึ่งจะช่วยให้เราอยู่ในสถานะที่ดีของการแข่งขัน”
“พวกเขาเป็นค่ายผู้ผลิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ยานยนต์อันยาวนานหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่ Jim Clark ถึง Ayrton Senna ไปยัง Michael Schumacher สายเลือดนี้ได้บ่งบอกถึงตัวมันเอง”
“สำหรับเราในฐานะ Red Bull Powertrains ที่จะเปิดบทต่อไปในชื่อ Red Bull Ford นั้น เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก”
“การกลับสู่วงการ Formula 1 ของ Ford กับ Red Bull Racing นั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรากำลังจะก้าวต่อไปในฐานะของบริษัท การเพิ่มขึ้นของระบบไฟฟ้า ซอฟต์แวร์ที่ถูกปรับแต่งเอง รวมถึงประสบการณ์ด้านยานยนต์ที่ทันสมัย” CEO ของ Ford, Jim Farley กล่าวเสริม
“F1 จะเป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อในการคิดค้น แบ่งปันแนวคิดและเทคโนโลยี และมีส่วนร่วมกับลูกค้าใหม่นับ 10 ล้านราย”
สำหรับ Ford เข้าร่วมการแข่งขัน F1 ครั้งสุดท้ายในปี 2004 ซึ่งในตอนนั้นพวกเขาสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีม Jordan
อ้างอิง : motorsport.com
