More

    BEV vs PHEV อันไหนดี อันไหนเด่น?

    ในบทความก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ไปแล้ว ดังนั้นในวันนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบดูข้อดีข้อเสียระหว่าง BEV และ PHEV กันบ้าง

    ในการเลือกใช้ประเภท EV ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรานั้น มันมีหลายปัจจัยที่จำเป็นจะต้องถูกนำมาพิจารณา เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ เราสามารถแบ่งปัจจัยต่างๆ ออกได้เป็นดังนี้

    กรณีที่คุณใช้รถในระยะทางสั้นๆ

    ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ใช้รถน้อยโดยใช้รถในแต่ละวันไม่เกินระยะทาง 50 km BEV และ PHEV ในโหมดไฟฟ้านั้นสามารถที่จะพาคุณไปในระยะทางข้างต้นได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่า PHEV ซึ่งต้องมีการแบกน้ำหนักเครื่องยนต์อาจทำให้คุณมองว่าเป็นการเสียประสิทธิภาพของการใช้ไฟฟ้าไปอย่างเปล่าประโยชน์ เนื่องจากเครื่องยนต์นั้นยังไม่จำเป็นต้องทำงาน แต่ถ้าหากคุณต้องใช้รถเกินกว่าวันละ 50 km ปริมาณไฟฟ้าใน PHEV นั้นอาจจะไม่สามารถรองรับต่อการเดินทางได้เพียงพอ ส่งผลให้ตัวรถนั้นสลับระบบกลับไปใช้เชื้อเพลิงแทน ซึ่งนั่นก็ทำให้เปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นไปอีก

    BEV
    ที่มาภาพ : insideev.com

    ถ้าหากว่าคุณไม่อยากให้รถ PHEV ของคุณเปลืองเชื้อเพลิงจากการเดินทางมากกว่า 50 km คุณอาจจะต้องหาสถานีชาร์จไฟเพื่อเติมไฟของแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ไม่ได้ดูสมเหตุสมผลนักเพราะทำให้คุณต้องเสียเวลาในการหาสถานีชาร์จไฟ นอกจากนั้นกับการชาร์จไฟแบบเร็วก็มักจะมีราคาที่แพงกว่าการชาร์จไฟแบบปกติ

    กรณีที่คุณใช้รถในระยะทางยาวๆ บ่อยครั้ง

    ถ้าคุณเป็นคนที่จำเป็นต้องใช้รถเดินทางประมาณ 250 km ถึง 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ BEV อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้ เนื่องจากคุณต้องเสียเวลาจอดแวะหาสถานีชาร์จ ซึ่งถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสถานีแบบชาร์จเร็วคุณก็ต้องเสียเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ในการชาร์จไฟอยู่ดี และจะยิ่งลำบากกว่าหากที่ที่คุณไปนั้นไม่มีสถานีชาร์จ

    ดังนั้นในจุดนี้ PHEV จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับระยะทางวิ่งต่อการชาร์จไฟ เมื่อไฟหมดตัวรถก็จะยังคงมีเครื่องยนต์ที่ทำให้มันวิ่งต่อไปได้ แถมมันยังมีระบบเก็บกู้คืนพลังงานจากการเบรก ทำให้แบตเตอรี่ของคุณถูกเติมไฟกลับอีกครั้ง

    PHEV
    ที่มาภาพ : forbes.com

    แต่ถ้าหากคุณต้องใช้รถในระยะทางที่ไกลมากๆ บ่อยครั้ง PHEV ก็อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป ณ จุดๆ นี้ถ้าหากคุณมองในเรื่องประสิทธิภาพ รถยนต์ดีเซลนั้นดูจะให้ประสิทธิภาพกับความประหยัดได้ดีกว่า เนื่องจากเมื่อไฟจาก PHEV หมด มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน

    สรุป

    ถ้าหากว่าคุณต้องใช้รถในระยะทางสั้นๆ และเน้นประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถ BEV และ PHEV จะช่วยตอบสนองความต้องการในจุดนี้ของคุณได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคุณตั้งใจที่จะใช้รถไฟฟ้าในระยะยาว คุณจำเป็นจะต้องดูเรื่องค่าซ่อมบำรุงด้วยเช่นกัน

    แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการใช้รถในระยะทางที่ยาวขึ้น PHEV จะเริ่มเสียเปรียบ BEV ตรงที่มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาป แต่มาพร้อมค่าตัวที่แพงกว่า ในขณะที่ BEV อาจต้องกังวลในเรื่องของที่ตั้งสถานีชาร์จไฟในแต่ละจุดแทน

    อ้างอิง : buyacar.co.uk

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts