Ryvid อาจจะเป็นค่ายผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์หน้าใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก พวกเขามีฐานการผลิตอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย และคลั่งไคล้งานออกแบบทางด้าน Aerospace ซึ่งพวกเขานำแรงบันดาลใจนั้นมาใช้กับการออกแบบมอเตอร์ไซค์ EV ของตัวเอง
ไม่รอช้า เราตรงเข้าไปที่สเปกรถกันเลย Ryvid ได้วางตำแหน่ง “Anthem” เพื่อที่จะแข่งขันกับคู่แข่งชั้นนำในทุกวันนี้ แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ขนาด 4.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้มันทำระยะทางวิ่งต่อการชาร์จได้ประมาณ 120 กิโลเมตร (80 กิโลเมตร ในโหมด Sport) และมันสามารถที่จะถอดออกมาได้ ทำให้ง่ายต่อกระบวนการชาร์จไฟ
เมื่อต่อเข้ากับเต้ารับ 220 โวลต์ Anthem จะใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมง เท่านั้น แต่มันก็สามารถที่จะเสียบกับเต้ารับ 110 โวลต์ ได้เช่นกัน โดยจะใช้เวลาชาร์จเพิ่มขึ้นเป็น 6 ชั่วโมง
มอเตอร์ถูกติดตั้งอยู่บนสวิงอาร์มและขับเคลื่อนด้วยสายพาน ซึ่งมันจะให้แรงบิดออกมา 71.9 นิวตันเมตร ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในส่วนของการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่ Ryvid ให้ความสำคัญเช่นกัน ระบบส่งกำลังที่ปกปิดมิดชิดนั้นแทบจะไม่ต้องทำการบำรุงรักษาใด ๆ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ลงได้อย่างมาก
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศเช่นนี้ การมีบางสิ่งที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของผู้ขับขี่ โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องยุ่งยากในการซ่อมบำรุงที่เกี่ยวกับตัวมอเตอร์ไซค์” นั่นเป็นสิ่งที่ Dong Tran ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Ryvid กล่าว
“การขี่ Anthem นั้นจะเป็นประสบการณ์ส่วนตัว โดยมีระดับการปรับแต่งที่แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกว่า จักรยานยนต์คันนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุณโดยเฉพาะ”
ด้วยแชสซีส์แบบโมโนค็อก Anthem นั้นจะมีน้ำหนักเพียง 109 กิโลกรัม เท่านั้น แต่สามารถที่จะบรรทุกของซึ่งมีน้ำหนักถึง 181 กิโลกรัม ได้ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งตัวรถให้รองรับกับสรีระของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย ซึ่งเกิดจากการออกแบบแฮนด์และช่วงล่างหน้า-หลัง ที่ปรับแต่งได้ นอกจากนั้น เบาะนั่งของ Anthem ยังปรับโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตั้งแต่ความสูง 762 – 863.6 มิลลิเมตร
Ryvid เปิดพรีออเดอร์ Anthem ในรอบแรกเพียง 1,000 คัน ก่อนเท่านั้น โดยพวกเขาตั้งราคาขายในรุ่นเปิดตัวที่ 7,800 เหรียญสหรัฐ และจักรยานยนต์แต่ละคันนั้นมาพร้อมกับการรับประกันเฟรมตลอดอายุการใช้งาน การรับประกันชุดไฟ 2 ปี และการรับประกันตัวรถมาตรฐาน 1 ปี
พวกเขาจะเปิดให้จองในวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2022 เวลา 10.00 (PST) และจะเริ่มส่งมอบในช่วงซัมเมอร์ของปี 2023
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะส่งแรงกระแทกอย่างใหญ่หลวงต่อมุมมองของผู้คนต่อยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก และการส่ง Anthem ลงสู่ตลาด เรารู้ดีว่าเราพร้อมสำหรับการนั้นแล้ว”
อ้างอิง : rideapart.com
