จากเหตุดราม่าในรอบสุดท้ายที่อาบูดาบีอันเป็นผลทำให้ ลูวอิส แฮมิลตัน ต้องพลาดแชมป์โลกไป จนถึงตอนนี้นักขับสหราชอาณาจักรฯ ยังคงปิดปากเงียบไม่ออกสื่อให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับอนาคตของเขา ซึ่งแฮมิลตันมีเหตุผลที่จะเลิกขับ F1 พอๆ กับที่จะไปต่อ แต่ถ้าหากแฮมิลตันทำอะไรแบบที่ นิโค รอสเบิร์ก เคยทำล่ะ? จะมีใครที่สามารถหรือดีพอที่จะมาแทนที่แฮมิลตันได้ทันที? เราเลยมองไปที่ตลาดนักขับและดูตัวเลือกต่างๆ ที่พอจะเป็นไปได้
วาลท์เทรี บ็อตตาส
หากเมอร์เซเดสเลือก วาลท์เทรี บ็อตตาส ก็จะเป็นอีกครั้งที่ทีมแข่งตราดาวต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับต้นสังกัดใหม่ของนักแข่งฟินน์ (ในตอนที่เมอร์เซเดสดึงตัวบ็อตตาสมาจากวิลเลียมส์ พวกเขาต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับวิลเลียมส์ 10 ล้านปอนด์) แต่เมื่อเทียบกับนักขับที่พวกเขามีอย่าง จอร์จ รัสเซล ซึ่งประสบการณ์ในทีมยังน้อยอยู่มาก มันก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลในการดึงตัวนักแข่งฟินน์กลับมา
ดูผิวเผินแล้วทางเลือกนี้ดูเหมือนจะเป็นการเดินถอยหลังกลับ แต่เมื่อคำนึงถึงรถปี 2022 ที่ทางทีมต้องทำความเข้าใจกับมันตั้งแต่เริ่มต้น ความต่อเนื่องของนักขับก็จะเป็นอะไรที่มีคุณค่าเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นบ็อตตาสยังสามารถที่จะเป็นตัวอ้างอิงระดับให้กับรัสเซลได้เป็นอย่างดี และถ้าหากรัสเซลทำได้ดีในปี 2022 เมอร์เซเดสก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมองหาซุปเปอร์สตาร์คนใหม่
ทางเลือกนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาว บ็อตตาสเพียงแต่จะเข้ามาช่วยปิดแก็ปที่หายไป แต่ด้วยประสบการณ์ 5 ปีที่เขามีกับเมอร์เซเดส อีกทั้งเจ้าตัวยังเร็วพอในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง เขาก็ยังจะสามารถช่วยหนุนให้ทีมเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้
อย่างไรก็ตามทางเลือกนี้ดูจะมีความเป็นไปได้น้อย เพราะถึงแม้ว่าเมอร์เซเดสจะมีกำลังพอที่จะจ่ายค่าฉีกสัญญา แต่บ็อตตาสจะรับหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง เพราะนักแข่งฟินน์รู้ตัวดีว่าเขาได้ถูกเรียกตัวกลับให้ไปทำหน้าที่นักขับเบอร์ 2 อีกครั้ง และเมอร์เซเดสต้องการตัวเขาเพียงระยะเวลาสั้นๆ (สัญญา 1 ปี) นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกเดินออกจากทีมมาก่อนหน้านี้
เฟอร์นันโด อลองโซ
เฟอร์นันโด อลองโซในรถเมอร์เซเดสเหรอ? เราจินตนาการสิ่งนั้นไม่ออกเลยจริงๆ แต่ถ้าหากเมอร์เซเดสต้องการใครที่จะมาอุดช่องว่างช่วงสั้นๆ อลองโซกลับเป็นรายชื่อแรกๆ ที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ไม่มีนักขับคนไหนที่จะให้ส่วนผสมที่ลงตัวในการแทนที่แฮมิลตันเท่าอลองโซอีกแล้ว เขามีทั้งฝีมือ ประสบการณ์ และดูจะเป็นคนเดียวนอกเหนือจาก แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ที่สามารถต่อกรกับแฮมิลตันได้ในรถที่เท่ากัน คุณสามารถที่จะจับอลองโซเข้าไปนั่งในรถและคาดหวังผลงานได้ในทันที และมีใครบ้างที่ไม่อยากเห็นอลองโซกลับมาวาดลวดลายแชมป์โลกอีกครั้ง?
ทางฝั่งอลองโซเองนี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสทองที่ฟ้าประทานมาให้ การขับรถเมอร์เซเดส 1 ปี ย่อมต้องดีกว่าขับรถอัลปีนไปอีก 2 ปี และนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายหากเขาต้องการทำตามความฝันคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3
แลนโด้ นอริส
ถ้าหากเมอร์เซเดสต้องพบเจอกับเหตุการณ์แบบ “นิโค รอสเบิร์ก” อีกครั้ง การมองหานักขับจากทีมลูกค้าก็น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และถ้ามองในแง่มุมนี้ แลนโด้ นอริส คือตัวเลือกที่ใช่ที่สุด และไม่ว่าจะมองมาจากมุมไหน ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า นอริสพร้อมแล้วที่จะควบรถระดับแชมป์โลก
ความยากของดีลนี้ก็คือ นอริสนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นลูกรักของ แซ็ค บราวน์ CEO ของแม็คลาเรนเลยทีเดียว แม็คลาเรนนั้นเป็นคนดึงตัวนอริสมาปั้นจนพัฒนาฝีมือขึ้นมาถึงระดับที่เราเห็น และนอริสยังถูกวางตัวไว้เป็นอนาคตของทีมอีกด้วย
ถึงอย่างนั้นทั้งบราวน์และนอริสเองต่างก็รู้ว่ารถของพวกเขานั้นยังไม่ถึงระดับที่จะลุ้นแชมป์โลกได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นสัญญาเช่าแบบที่เรดบูลล์เคยให้เรโนลต์เช่า คาร์ลอส ซายน์ซ ไปก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ นอริสอาจจะได้ลุ้นแชมป์โลกกับเมอร์เซเดสก่อนที่จะกลับมายังแม็คลาเรนในช่วงที่ทีมพร้อมแล้ว
เรียกได้ว่าดีลนี้เป็นอีกดีลหนึ่งที่ยากจะเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่มีใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเห็นการจับคู่กันระหว่าง รัสเซล/นอริส ซึ่งเป็นส่วนผสมของสายเลือดใหม่อนาคตไกลทั้งคู่
แดเนียล ริคคิอาร์โด
แดเนียล ริคคิอาร์โด นับว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับเมอร์เซเดสถ้าดูในแง่ของฝีมือและประสบการณ์ เจ้าตัวเคยเอาชนะ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น มาแล้วในตอนที่อยู่เรดบูลล์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามผลงานของเขากับแม็คลาเรนในปีที่ผ่านมาทำให้เกิดคำถาม ซึ่งเขาถูก แลนโด้ นอริส ทำผลงานเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามถ้าเมอร์เซเดสสามารถมอบรถที่ “ใช่” กับริคคิอาร์โด เราก็สามารถที่จะฝากฝังความหวังไว้ที่เขาได้เช่นกัน อีกทั้งริคคิอาร์โดยังมีคาแร็คเตอร์ที่เป็นมิตรและไม่ค่อยมีปัญหาในการทำงานกับเพื่อนร่วมทีมนัก
นิค ดี ฟรีส
หากคุณต้องการหาใครสักคนที่จะเข้ามาอุดช่องว่างที่เสียแฮมิลตันไปโดยด่วน นิค ดี ฟรีส ที่เป็นนักขับในสังกัดของเมอร์เซเดสเองก็เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ดี ฟรีส ไม่ได้ลงแข่งขันรายการอะไรมากมาย และฟอร์มูล่าอีรายการหลักที่นักแข่งดัตช์ลงแข่งขันนั้น เขาก็อยู่ภายใต้สังกัดของเมอร์เซเดส นั่นทำให้ง่ายต่อต้นสังกัดในการโยกตัว ดี ฟรีส ไปลงรายการใดก็ได้
ถ้าหากเมอร์เซเดสเลือก ดี ฟรีส มาจริง ทางทีมก็จะสามารถโฟกัสทุกอย่างให้กับ จอร์จ รัสเซล ได้ เนื่องจาก ดี ฟรีส นั้นยังคงอยู่ในช่วงเรียนรู้การแข่งขัน F1 และมันจะทำให้นักแข่งดัตช์มีพื้นฐานที่ดีในการที่จะหางานทำใน F1 ต่อไปหลังจบปี 2022
นิโค ฮูลเคนเบิร์ก
ช่วงเวลาของ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก ใน F1 นั้นอาจจะจบไปนานแล้ว แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เดอะฮัคคือซุปเปอร์ซัพที่เราสามารถดึงตัวมาเมื่อไหร่ก็ได้ และเขามีฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งในการเรื่องของการปรับตัว ดังที่เราได้เห็นไปแล้วในการที่เขามาแทนที่ เซอร์จิโอ เปเรซ ในเรซซิ่งพอยต์
ในตอนที่เขามาแทนที่เปเรซซึ่งติดโควิดนั้น เขาไม่ได้ใช้เวลาปรับตัวอะไรมากมายและสามารถทำความเร็วขึ้นมาได้ทันที แต่ถ้าหากเมอร์เซเดสต้องการเรียกเขาเข้ามาใช้บริการในครั้งนี้ เขาจะมีเวลาเตรียมตัวมากกว่าตอนขับให้กับเรซซิ่งพอยต์ เขาจะได้ลงทำการทดสอบรถก่อนเปิดฤดูกาลและมีเวลาปรับตัวมากขึ้น นอกจากนั้นรถใหม่ในปี 2022 ก็ทำให้นักขับทุกคนเหมือนเริ่มต้นจากศูนย์เท่ากัน ซึ่งนั่นก็เข้าทางฮูลเคนเบิร์กที่จะทำให้เขาไม่เสียเปรียบคู่แข่งมากนัก
ฮูลเคนเบิร์กนั้นได้รับการพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเร็วและเชื่อถือฝากฝังความหวังไว้ได้ เขาจะเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับเมอร์เซเดสในการสนับสนุน จอร์จ รัสเซล ได้อย่างแน่นอน
ออสการ์ ปิอัสทรี
ถึงแม้ว่า ออสการ์ ปิอัสทรี นั้นจะไม่ใช่นักขับในสังกัดเด็กปั้นของเมอร์เซเดส แต่แชมป์โลก F2 คนล่าสุดนั้นมีดีเกินกว่าที่จะต้องนั่งข้างสนามในปี 2022 ก็อาจจะใช่ที่เขาจะต้องมีการเรียนรู้ที่หนักหนาหากเขาต้องมาลงขับให้กับเมอร์เซเดส แต่การปรับตัวที่รวดเร็วก็เป็นจุดแข็งของเขาเช่นกันที่ทำให้เขาคว้าแชมป์มา 3 ปีติด และเช่นเดียวกับ ลูวอิส แฮมิลตัน, ชาร์ล เลอแคลร์ และ จอร์จ รัสเซล, ปิอัสทรีนั้นขึ้นมาขับ F2 ปีแรกและคว้าแชมป์โลกได้ตั้งแต่ฤดูกาลรูกี้ของเขาเลย
นอกจากนั้นปิอัสทรียังมีการขับที่น่าประทับใจ น้อยครั้งนักที่เขาจะเกิดอุบัติเหตุหรือพารถหลุดออกนอกแทร็ค อีกทั้งเขายังสามารถแบทเทิลล้อบดล้อได้แฟร์ ซึ่งนั่นเป็นกุญแจสำคัญในการขับ F1
อ้างอิง : the-race.com
