หลังจากไมเนอร์เชนจ์ไปตั้งแต่ปีกลายสำหรับ Toyota GR YARIS ตัวเล็กบ้าพลัง 3 ประตูที่ขาซิ่งชื่นชอบและล่าสุดเปิดตัวรุ่นปี 2025 หรือ MY2025
Toyota GR YARIS ยังหน้าตาเดิมที่ปรับโฉมไปเมื่อปีที่แล้วในร่างเดิม 3 ประตูแฮทช์แบ็กแต่ในรุ่นปี MY2025 ปรับงานวิศวกรรมทั้งหมดเพื่อความเร้าใจในการขับขี่ที่สนุกขึ้น สะใจขึ้น กว่าครั้งไหนๆ
เริ่มที่ชุดกันชนหน้าออกแบบช่องระบายอากาศดีไซน์ให้กรอบด้านข้างซ้าย-ขวาช่องใหญ่ขึ้นเป็นแนวตั้งถึงสองช่อง ช่องระบายอากาศส่วนกลางบนและล่างออกแบบหลอมรวมกับกรอบด้านข้างให้เป็นหนึ่งเดียวพร้อมตราสามห่วงในชุด
กระจังหน้าทรงปีกประกบกับไฟหน้า LED ฝากระโปรงหน้า-หลัง และประตูซ้าย-ขวา ผลิตจากอลูมิเนียม สามารถลดน้ำหนักของตัวรถให้น้อยลง หากยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและทนทาน หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์หล่อขึ้นรูป ช่วยให้น้ำหนักลดน้อยลงแล้ว ยังช่วยให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ด้านท้ายไร้ตราสามห่วง ออกแบบสปอยเลอร์หลังบนมาท้ายใหม่ย้ายไฟเบรกดวงที่สามไปอยู่ในชุดแผงไฟ LED ส่วนกลางกลมกลืนกับไฟท้าย LED รูปตัวซี
กันชนหลังทรงเดิมมีดีไซน์ลิ้นสปอยเลอร์สีดำพร้อมท่อกลมเดี่ยวติดตั้งสองฝั่งซ้าย-ขวาบ่งบอกถึงความเข้มเต็มขั้น และล้ออัลลอยลายเดิมสีดำ BBS forged aluminum 8J ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/40ZR18 จาก Michelin Pilot Sport 4S ตัวรถมาในร่างท้ายตัดสามประตูตากแพลตฟอร์ม TNGA-C ได้ถูกพัฒนาจากประสบการณ์จากทีมรถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก Toyota Gazoo Racing ด้วยมิติตัวรถ
- ความยาว 3,995 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,805 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,455 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,560 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวรถรวมอยู่ที่ประมาณ 1,280 และ 1,300 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายเท่โดยในรุ่น MY2025 ปรับรายละเอียดใหม่ด้วยการขยายที่พักเท้าใหญ่ขึ้นสามารถวางเท้าได้สบายขึ้นในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ GR-DAT
พร้อมออปชันเดิมทั้งแผงคอนโซลหน้าออกแบบให้คอนโซลกลางของชุดแผงคอนโซลหน้าทำเว้าเข้าหาคนขับเพื่อการหยิบจับสัมผัสฟังก์ชันต่างๆได้ง่ายขึ้นคล้ายกับรถยนต์ SAAB จาก สวีเดนงานนี้ทันสมัยเสียทีกับมาตรวัดดิจทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว TFT ทดแทนแบบเดิมที่เป็นแบบเข็มกวาดและมีจอ MID แบบสี TFT แนวตั้งราวๆ 4-5 นิ้ว พร้อมจอสัมผผัสระบบความบันเทิง
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้ายขวา พร้อมช่องแอร์แนวนอน ใต้แผงแอร์มีปุ่มต่างๆทั้งอุ่นพวงมาลัยอุ่นเบาะช่องเสียบ USB พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์เดิมหุ้มหนังออกแบบพิเศษติดโลโก้ GR เบาะนั่งสปอร์ตคู่หน้าหุ้มด้วยหนังตัดสลับ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 ลำโพงคุณภาพจาก JBL และเบรกมือคันโยกสามารถปรับเป็นแนวตั้งได้ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
ขุมพลังเดิมบ้าบิ่นทวีคูณขึ้นเป็นหลายเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS 3 สูบ 12 วาล์ว 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบต่อนาทีทั้งสองความแรงจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission)
กับเกียร์อัตโนมัติ DAT 8 สปีด GAZOO Racing Direct Automatic Transmission จาก ZF พัฒนาใหม่ จูนกล่องสมองกลเกียร์ใหม่ตอบสนองความแรงขึ้นขยายความเร็วช่วงลดเกียร์และปรับเกียร์ให้สูงขึ้นเพื่อให้ลากรอบตอนขึ้นทางลาดชัน
ปรับแหวนรองน็อตขยายเกลียวให้ใหญ่ขึ้นเป็น 24 มิลลิเมตร (เดิม 22 มิลลิเมตร) รวมถึงเพิ่มความหนาของสกรูหน้าแปลนเป็น 3.1 มิลลิเมตร (เดิม 2.1 มิลลิเมตร)
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังดับเบิ้ล วิชโบน พัฒนาใหม่ออกแบบให้น้ำหนักเบาลงขึ้น ปรับแต่งเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ต ทรงตัวยึดเกาะมั่นคงแม้ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงกว่ารุ่นเดิม พวงมาลัยไฟฟ้าออกแบบใหม่ให้การควบคุมที่ดีขึ้น
มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four เลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ได้ ที่แยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง คือ Normal (60/40) Sport (30/70) และ Track (50/50) เพื่อช่วยให้การทรงตัวและยึดเกาะได้อย่างมั่นคงในทุกสภาพถนน
แม้ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม พร้อม Torsen® LSD (Limited Slip Differential) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลังให้สัมพันธ์กับสถานการณ์การขับขี่โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลตลอดเวลา บังคับควบคุมได้ง่าย ดิสค์เบรกหน้า-หลังขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อนและคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ติดตรา GR ด้านหน้าแบบ 4 พอต ขนาดจานหน้า 356 มิลลิเมตร ด้านหลังแบบ 2 พอต ขนาดจานหลัง 297 มิลลิเมตร
พร้อมระบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มั่นใจทุกการขับขี่และครั้งนี้ให้เป็นออปชันมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยทั้ง Pre-Collision System ความปลอดภัยก่อนการชน Lane Departure Alert with Steering Assist เตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Automatic High Beams ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลนและยังแนะนำรุ่นตกแต่ง Aero Performance Package ด้วยบอดี้พาร์ทใหม่ติดมา 6 ชุดไม่ว่าจะเป็น สคู๊ฟบนฝากระโปรงหน้าทรงบิ๊วอินทำจากอะลูมิเนียมรังผึ้ง, เสริมลิ้นชายล่างกันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น, ติดตั้งช่องระบายอากาศในชุดบังโคลนโป่งล้อ, เสริมแผ่นปิดบริเวณถังน้ำมันใต้ท้องรถ, ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ปรับปีกสปอยเลอร์ได้, กันชนหลังเพิ่มช่องระบายอากาศให้ใหญ่ขึ้น
Boy Toys ต้วเอ้มาดใหม่ Toyota GR Yaris MY2025 เปิดขายแล้วที่ญี่ปุ่นทั้งรุ่น RC รุ่น RZ และรุ่น RZ “High performance” รวม 6 รุ่นย่อยเปิดราคาเริ่ม 3,560,000-5,330,000 YEN หรือราว 839,000-1,255,000 บาท แต่ถ้านำเข้ามาขายไทยจะมีราคารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,573,000-2,355,000 บาท ส่วนรุ่นแต่งพิเศษ Aero Performance Package เตรียมขายจริงช่วงปลายปีนี้
ที่มา CarWatch