ค่ายตราดาวอย่าง Mercedes-Benz ใช้เวทีงานแสดงรถยนต์อย่าง Motor Expo 2021 เปิดตัวรุ่นใหม่ทีเดียวถึง 6 รุ่นด้วยกันเรียกว่าสร้างความสนใจให้กับสาวกอย่างเต็มรูปแบบ
และหนึ่งในนั้นมียนตรกรรมเอสยูวีระดับอัลตราลักชัวรีคันแรกของค่ายซับแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Maybach กับการเปิดตัว Mercedes-Maybach GLS นำเสนอความพิถีพิถันถึงยกระดับขึ้นอีกขั้นในทุกรายละเอียด ทั้งด้านการออกแบบและวัสดุตกแต่งภายนอกและภายใน รายละเอียดทางวิศวกรรม ภายนอกโดดเด่นในทุกองศา เริ่มจากกระจังหน้า Radiator grille และการใช้ตราสัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกของเมอร์เซเดส-เบนซ์กับตัวอักษร “Maybach” คู่กัน ตามด้วยการนำเสนอสีตัวถังทูโทนเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Mercedes-Maybach ที่มีความพิถีพิถันถึงขีดสุดเพราะเป็นสีที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เป็นไฮไลต์ นั่นก็คือบันไดไฟฟ้า (Electrically Extending Running Board) ประทับโลโก้ Maybach ที่จะยื่นออกมารับเท้าในจังหวะที่ผู้โดยสารกำลังจะก้าวขึ้นเพื่อเข้าไปนั่งในรถในทุกครั้ง โดยสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 200 กิโลกรัม และเมื่อเข้าไปในนั่งในรถและปิดประตูแล้ว บันไดไฟฟ้าจะพับเก็บเข้าไปใต้ตัวถังรถอย่างแนบสนิท และล้ออัลลอยลายหรูขนาด 23 นิ้ว พร้อมยาง 285/49 R23 สำหรับล้อหน้าและ 325/35 R23 สำหรับล้อหลัง
ภายในออกแบบให้มีความกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์ภายในที่มาพร้อมความตั้งใจในการมอบความหรูหราและสะดวกสบายขั้นสูงสุด เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้หนัง nappa คุณภาพสูงที่ตัดเย็บด้วยมือในทุกรายละเอียดทั่วทั้งห้องโดยสาร ไล่ตั้งแต่พวงมาลัยหุ้มหนังสลับไม้ เบาะที่นั่ง คอนโซล เรื่อยไปจนถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic sliding sunroof) ที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่ โดยมีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ สีดำ (black) และสีน้ำตาลตัดกับเบจ (mahogany brown/macchiato beige) พร้อมสีขาวมุกพิเศษ MANUFAKTUR crystal white/silver grey pearl
ความโดดเด่นยังอยู่ที่เบาะที่นั่งแถวที่ 2 ที่นอกจากจะเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ และฟังก์ชันการนวดที่สามารถเลือกโปรแกรมการนวดได้สูงสุด 4 โปรแกรมแล้ว ยังมาพร้อมระบบ rear-seat entertainment system ที่มอบความบันเทิงเต็มรูปแบบให้กับผู้โดยสารแถวหลังผ่านการควบคุมหน้าจอส่วนตัวด้วยแท็บเล็ต และหูฟังแบบ wireless head sets สองชุด เมื่อผนวกกับการเลือกใช้ระบบเครื่องเสียง Burmester และการเลือกใช้กระจกสองชั้นที่ส่งคลื่นเสียงสะท้อนเสียงรบกวนจากภายนอก จึงมอบความเงียบในแบบที่เป็น first-class sound experience ให้กับผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกเพิ่มออปชันความหรูหราและความสะดวกสบายได้เพิ่มเติมด้วยแพ็คเกจ First-class rear compartment ที่ประกอบด้วยคอนโซลกลางระหว่างที่นั่งแถวที่ 2 ที่เท้าแขนพร้อมที่เก็บของสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่วางแก้วน้ำพร้อมระบบรักษาอุณหภูมิสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Temperature-controlled cup holder) การตกแต่งลายไม้ที่ด้านบนของที่กั้นสัมภาระด้านท้าย และที่วางโทรศัพท์มือถือพร้อมระบบชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charging) รวมถึงโต๊ะทำงานแบบพับได้สำหรับผู้โดยสารตอนหลังทั้ง 2 ตำแหน่ง (folding tables in the rear)
นวัตกรรมที่เป็นที่สุดจาก Mercedes-Benz โดยมาพร้อมขุมพลังเบนซิน V8 Biturbo 4.0 ลิตร M177 แบบ Mild Hybrid EQ Boost ให้กำลังสูงสุดถึง 557 แรงม้าที่ 6,000-6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตรที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากถึง 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร ใช้แรงดันไฟฟ้าเพียง 48 โวลต์ และเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้าสูงถึง 579 แรงม้า แรงบิด 980 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC
ระบบช่วงล่าง E-ACTIVE BODY control โดดเด่นกว่ารถยนต์เอสยูวีทั่วไปเพราะเป็นระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ สามารถแยกการทำงานของล้อแต่ละล้อได้อย่างอิสระ พร้อมการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลผ่านโหมดขับขี่ที่มีให้เลือกทั้งโหมด Comfort และโหมด Maybach ที่มีเฉพาะในรถยนต์ Mercedes-Maybach เท่านั้น ช่วยให้ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับพื้นผิวของถนนแบบใด รถยนต์คันนี้ก็สามารถอ่านพื้นถนนล่วงหน้าเพื่อเตรียมปรับช่วงล่างรอซับแรงกระแทก ทำให้ทุกการเดินทางนุ่มสบายที่สุดสำหรับผู้โดยสารในทุกเบาะที่นั่ง
ที่สุดแห่งยนตรกรรมเอสยูวีระดับอัลตราลักชัวรีภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach อย่าง Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium จำหน่ายในไทยด้วยราคาเริ่มที่ 18,000,000 บาท