หลังจากที่ไดยลโฉมและสเปกกันไปคร่าวๆสำหรับ Haval Jolion เอสยูวีน้องใหม่ ที่เข้ามาเสริมตลาดรถเอสยูวีให้แข็งแกร่งพร้อมเตรียมก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ตลาดรถกลุ่มนี้ให้สำเร็จในเมืองไทย
ล่าสุด Great Wall Motor เปิดแคมเปญยอดนิยมที่เคยสร้างความสำเร็จมาแล้วจาก Haval H6 และ ORA Good Cat กับแคมเปญ ULTRA Deal มูลค่ารวมกว่า 175,000 บาท โดยมีรายละเอียด ฟรี ทุกรายการดังนี้
-ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน
– ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท
– บริการส่งมอบรถทั่วประเทศพร้อมฟรีน้ำมันเต็มถัง มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
– GWM Ultra Service Inclusive – GUSI Package บำรุงรักษา 5 ปี (แพ็กเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน รวมอะไหล่สิ้นเปลือง ได้แก่: ยางใบปัดน้ำฝน 5 ชุด แบตเตอรี่ (12V.) 2 ลูก ผ้าเบรก 1 ชุด จานเบรก 1 ชุด รวมมูลค่า 59,098บาท)
– บริการรับหรือส่งรถเพื่อเข้ารับการบริการ หรือ บริการนอกสถานที่ ฟรี 4 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท
– บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
– คะแนน GWM Point เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application จำนวน 30,000 คะแนน
หรือรับ Ultral Deal แบบเพิ่มแพ็กเกจ HAVAL JOLION VALUE PLUS ในราคาเพียง 5,000 บาท รับส่วนลดและบริการ มูลค่ารวมสูงสุดกว่า 34,500 บาท ดังนี้
– คูปองเงินสดมูลค่า 20,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อ HAVAL JOLION จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
– รับเพิ่ม 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง จากเดิม 5 ปี รวมเป็น 10 ปี มูลค่า 10,000 บาท
– รับเพิ่ม 6 ครั้ง สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับหรือส่งรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการ และ/หรือ สิทธิ์ในการใช้รถบริการเคลื่อนที่ (GWM Mobile Service) จากเดิม จำนวน 4 ครั้ง รวม 10 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 4,500 บาท
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยรุ่นย่อยสำหรับสเปกไทยตั้งแต่รุ่นถูก TECH, PRO และรุ่นท็อปสุด ULTRA โดยมีเฉดสีให้เลือกแบบเดียวกับ Haval H6 HEV ตั้งแต่ สีเทา Ayers Gray, สีน้ำเงิน Swarovski Blue, สีขาว Hamilton White, สีแดง Burgundy Red และสีดำ Sun Black พร้อมหน้าตาหรูหราแบบเดียวกับรุ่นพี่ Haval H6 HEV พร้อมขุมพลัง Hybrid แรงสุดในกลุ่ม 1.5 ลิตร ให้กำลังมากสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 125 นิวตันเมตรที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้ารองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมัน โดยจะเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 25 พฤศจิกายนนี้