นับถอยหลังที่ มิตซูบิขิ มอเตอร์ส พร้อมจะส่งเอสยูวีเรือนร่างใหม่ถล่มคู่แข่งชนิดเต็มรูปแบบหลังตลาดในกลุ่มนี้โตวันโตคืน กับ All New Mitsubishi Outlander PHEV เจเนอเรชั่นที่ 4
เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเปิดตัวทางต้นสังกัด ได้ปล่อยภาพอย่างเป็นทางการออกมาและว่ากันว่า ญี่ปุ่นอาจเป็นประเทศแรกของโลกที่จะเปิดตัวในรูปแบบพวงมาลัยขวา ความหล่อเหลานั่นไม่ต่างจากสเปกอเมริกาที่จำหน่ายไปก่อนหน้านี้ สไตล์ Dynamic Shield เสริมราศีให้ดูดีด้วยไฟหน้า Daytime LED ทรงเล็กรับกับกันชนหน้าแบบสปอร์ตเสริมคิ้วชายล่างสีเงิน พร้อมไฟหรี่ ไฟสูง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ยาวจรดด้านท้ายกับแนวของโคมไฟหลัง LED แนวนอนเรียวเล็ก และเสา D ขนาดใหญ่แบบเดียวกับรถต้นแบบ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว
ภายในลักชัวรี่เทียบเท่ารถยุโรปกับการตกแต่งที่หรูหราด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ทูโทนลายเพชร แบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง หรือแบบ 2 ตอน 5 ที่นั่ง ตอน 2 พับได้แบบ 40:20:40 และตอน 3 พับได้แบบ 50:50 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวยาว กับเครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 ส่วน พร้อมจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า full-color Head-Up Display (HUD) ขนาด 10.8 นิ้ว ลำโพงคุณภาพก็มีมาให้ถึง 10 จุด จาก Bose และการตแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม
ขุมพลังถึงยังไม่มีข้อมูลแต่เป็นไปได้ว่าจะใช้ของเก่าจากเจนที่แล้วด้วยเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 2.4 ลิตร 4B12 128 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สูงถึง 82 แรงม้า แรงบิด 137 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหน้า และ 95 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหลัง เชื่อมต่อกับระบบแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออนขนาด 13.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า และอาจพัฒนการให้ระบบ EV อย่างเดียววิ่งได้ไกลสุด 55 กม. และการชาร์จที่ไวขึ้นแถมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super-All Wheel Control จากเดิมจะมี 4 โหมด ทั้ง โหมด 4WD Lock, โหมด Snow , โหมด Normal ,และโหมด Sport แต่งานนี้พัฒนาใหม่เพิ่มมาอีก 3 โหมดรวมเป็น 7 โหมด ตอบโจทย์การลุยที่เร้าใจขึ้น
การเปิดตัว All New Mitsubishi Outlander PHEV จะเปิดตัวที่โลกออนไลน์ ในวันที่ 28 ตุลาคม นี้ ผ่านทาง Mitsubishi Motors Global ส่วนออสเตรเลียเปิดตัว 1 พฤศจิกายนนี้ แต่ญี่ปุ่นขายจริงกลางเดือน ธันวาคม ส่วนเมืองไทยยังคงรอกันต่อไป
ที่มา Carscoops