More

    BYD Dolphin โลมาน้อยพลังอีวีสุดน่ารักเริ่ม 699,999 บาท

    BYD Dolphin โลมาน้อยหัวใจไฟฟ้ารุ่นที่สองของค่าย BYD ที่มาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการภายใต้ Rêver Automotive ตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ

    BYD

    เจ้าโลมาน้อยคันนี้ปรับหน้าตาปรับมาดให้ดูดีมีสีสันขึ้นตั้งแต่ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime แบบ LED กับกระจังหน้าทรงทึบติดตราตัวอักษร BYD ที่จับประตูดีไซน์ยกก้าน กระจกมองข้างมทรงสปูนปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Heated Mirror สำหรับหลังคาแบบ Panoramic Roof จัดมาให้ในรุ่นท็อป ไฟท้าย LED ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ล้อและยางขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60 R16 และขนาดใหญ่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50 R17 ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 กับมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,290 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,770 มิลลิเมตร ความสูง 1,550 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,506-1,658 กิโลกรัม

    BYD

    ภายในที่กว้างสบายแบบ 5 ที่นั่ง ใช้สีทูโทนเช่นเดียวกับตัวถังภายนอกดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มือจับเปิดประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมาจอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว ประเมินผลข้อมูลระดับพลังงานและความเร็วแบบเรียลไทม์ เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ต ฝั่งคนขับปรับ 6 ทิศทางและคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง โดยรุ่น Extended Range ปรับเบาะคู่หน้าด้วยระบบไฟฟ้า เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 มีพื้นที่มากถึง 1,310 ลิตรในกรณีพับเบาะแต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 345 ลิตร

    ระบบอัจฉริยะใหม่ “Follow Me Home” ที่จะมาเพิ่มความปลอดภัยหลังจากจอดรถ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter ให้ผู้ใช้รถได้มีอากาศบริสุทธิ์ในทุกการขับขี่ พร้อมระบบเสียงดนตรีที่มีการออกแบบสัญญาณเสียงที่จำลองมาจากทะเล นอกจากนี้ ยังมีกลไกการล็อกมากถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ การล็อกและปลดล็อกด้วยกุญแจรีโมท, บัตร NFC, BYD Application, กุญแจไข และแบบไม่มีกุญแจ (Keyless Entry)

    BYD

    เทคโนโลยี BYD Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะที่สามารถจัดเก็บพลังงานและให้ระยะการขับเคลื่อนสูง ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ permanent magnet synchronous motor มีความจุแบตเตอรี่ 44.9 kWh แรงสุด 95 แรงม้าที่ 3,714-14,000 รอบต่อนาที แรงบิด 180 นิวตันเมตรที่ 0-3,714 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุด 410 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 12.3 วินาที การชาร์จผ่านไฟ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW 0-100% ภายใน 6.45 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 29 นาที

    อีกรุ่นกับรุ่นท็อปสุด Extended Range ใช้ความจุแบตใหญ่ขึ้นเป็น 60.48 kWh ซึ่งความจุแบตเทียบเท่ากับ BYD ATTO 3 แรงสุด 204 แรงม้าที่ 5,000-9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 310 นิวตันเมตรที่ 0-4,433 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7 วินาที วิ่งไกลสุด 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) การชาร์จผ่านไฟ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW 0-100% ภายใน 9 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 29 นาที

    ทั้งคู่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Eco, Standard และ Sport พร้อมระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ พร้อมช่วงล่างหลังแบบทอร์ชันบีมในรุ่น Standard Range และ อิสระสี่ล้อในรุ่น Extended Range

    BYDขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ระบบความปลอดภัยที่มาอย่างครบครัน ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ได้แก่ ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and go ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW) ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS) ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW, RCW)

    ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB) ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP) ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA) ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS), จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ, เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC), ป้องกันการลื่นไถล (TCS), ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

    BYD

    • BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ) มีตัวเลือกภายนอก 4 สี ได้แก สีครีม (Coastal Crème) สีม่วง (Flora Purple) สีเทา (Alaskan Grey) สีชมพู (Coral Pink) ควบคู่กับการตกแต่งภายในที่มีตัวเลือกทูโทน ได้แก่ สีดำและน้ำตาล (Black + Brown) สีดำและสีเทา (Black + Grey) สีชมพูและสีเทา (Pink + Grey)
    • BYD Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ) มีตัวเลือกภายนอกทูโทน 4 สี ได้แก่ สีชมพู/ สีเทา (Coral Pink + Atlantis Grey) สีฟ้า/ สีเทา (Atoll Blue + Atlantis Grey) สีเทา/ สีดำ (Atlantis Grey + Pebble Black) สีขาว/ สีเทา (Surge White + Atlantis Grey) ควบคู่กับการตกแต่งภายในที่มีตัวเลือกทูโทน ได้แก่ สีชมพู/ สีเทา (Pink + Grey) สีฟ้า/ สีเทา (Blue + Grey) สีดำ/ สีเทา (Black + Grey)

    BYDมาพร้อมกับสิทธิพิเศษ Rêver Care สามารถออกรถเริ่มต้นเพียง 35,000 บาท หรือ ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.88%, ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี, การรับประกันตัวรถและแบตเตอรี่ระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 8 ปี, สายต่อพ่วง VtoL และสายชาร์จฉุกเฉิน, ค่าจดทะเบียนรถ, พรมเข้ารูป+กรอบป้ายทะเบียน+ฟิล์มหน้าจอ และผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ยังได้รับสิทธิ์ในการซื้อโฮมชาร์จเจอร์พร้อมการติดตั้งเพียง 25,000 บาท (จากราคา 35,000 บาท)

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts