ในงาน Shanghai Auto Show 2023 ที่ผ่านมา GWM เปิดตัวรถใหม่ในเครือมากถึง 15 รุ่นจาก 5 แบรนด์หลัก อันได้แก่ HAVAL, TANK, ORA, POER และ WEY
โดยหนึ่งในนั้นมีแบรนด์ HAVAL กับ HAVAL Fierce Dragon MAX เอสยูวีไซซ์กลางที่นอกจากทำตลาดเมืองจีนแล้วยังส่งไปจำหน่ายทั่วโลกด้วยภายนอกโดดเด่นล้ำสมัยด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์ล้ำสมัยแบบเลข 7 ติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime แบบ LED แนวตั้งชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ส่วนด้านท้ายมาหรูด้วยไฟท้าย LED แยกส่วนซ้าย-ขวา คั่นกลางด้วยชุดใส่ป้ายทะเบียนท้าย กันชนหลังมีลิ้นสปอยเลอร์ใต้กันชนขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยลายทูโทนขนาด 19 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/55R19 มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,758 มม. ความกว้าง 1,895 มม. ความสูง 1,725 มม. ระยะฐานล้อ: 2,800 มม. และน้ำหนักรถ 1,980 กก.
ภายในถึงกับตะลึงด้วยความอลังการของชุดจอขนาดใหญ่พาดยาวเต็ม 3 จอในชุดแผงคอนโซลหน้ามาพร้อม Coffee OS ระบบปฏิบัติงานในห้องโดยสารอัจฉริยะพร้อมชิปจาก Snapdragon 8155 ทั้งชุดมาตรวัดความเร็วดิจิทัล 12.3 นิ้ว จออินโฟเทนเมนท์ขนาดและจอด้านผู้โดยสาร 12.3 นิ้วควบคุมระบบความบันเทิงและแสดงการทำงานของเครื่องปรับอากาศและจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (W-HUD) ขนาด 10 นิ้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ยอดเยี่ยมให้แก่เหล่าผู้ขับขี่
พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงแปลกตา คอนโซลเกียร์ลาทีกับคันเกียร์กลายเป็นเกียร์แบบปุ่มกด พร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สายเจ้าแรกที่ให้มาสองฝั่งขนาด 50 W พร้อมฟังก์ชันอื่นๆ กับการตกแต่งภายในทูโทนสีดำ/เบจครีม 5 ที่นั่งและด้วยพื้นที่สัมภาระท้ายสามารถจุของได้จุเพียง 551 ลิตร (มาตรฐาน VDA) ในกรณีไม่พับเบาะและ 1,377 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2
ขุมพลังเป็นเบนซินเทอร์โบ Plug In Hybtid 1.5 ลิตร GW4B15D GDIT EVO 163 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งหน้าและหลังแบบอีมอเตอร์ให้กำลังล้อหน้า 95 แรงม้าและล้อหลัง 204 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรและเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้าสูงถึง 279 แรงม้า แรงบิด 585 นิวตันเมตร
ด้วยความจุแบตเตอรี่ 20 kWh (ตามสเปกจีนแจ้งมาว่า 19.94 และ 27.5 kWh) มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานมากถึง 5.5 ลิตรต่อ 100 กม. หรือ 18.18 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTP) สามารถขับเคลื่อนได้ที่ระยะทางสูงสุด 1,200 กม.เมื่อมีน้ำมันเต็มถังและชาร์จหนึ่งครั้ง โดยสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 105 กม. และด้วยศักยภาพของตัวรถที่สามารถขับขี่ได้แบบไฮบริดโดยไม่ต้องชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่มีพลังงานต่ำเป็นรถที่มี ประสิทธิภาพทัดเทียมกับระบบไฮบริดที่ไม่ต้องชาร์จไฟ
เป็นระบบขับเคลื่อนล่าสุดที่เรียกว่า GWM Hi4 ซึ่งย่อมาจาก ‘Hybrid Intelligent Four-Wheel Drive’ เหนือชั้นด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นบนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ประกอบด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อน 3 ชุด (เครื่องยนต์ 1 ชุด และ อี-มอเตอร์ 2 ชุด) รถยนต์รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมแนวคิดการออกแบบใหม่ที่มีภาพลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้นคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT 2 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 9 โหมดในสองโหมดหลักทั้ง Hybrid และโหมด EV
พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เบื่องต้น HAVAL Fierce Dragon MAX เตรียมเปิดตัวที่จีนพร้อมกับ HAVAL Fierce Dragon ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา Autohome