ในที่สุด BMW ประเทศไทยเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ BMW iX2 เอสยูวีไฟฟ้าสไตล์คูเป้ ที่พร้อมให้แฟนๆชาวบีมเมอร์ได้เป็นเจ้าของ
ฺBMW iX2 มาในรหัส U10 รุ่นเดียวกับ BMW X2 เจเนอเรชันที่สองนำพื้นฐานของ BMW X1 และ BMW iX1 เจเนอเรชันที่สามรหัส U11 ปรับดีไซน์ให้กลายเป็นสปอร์ตเอสยูวีหลังคาลาดตั้งแต่ด้านหน้ามาอย่างหรูด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมกรอบไฟส่องสว่างล้อมรอบกระจังหน้าทั้งคู่เรืองแสงคล้ายกับ BMW XM แบบทรงทึบ ไฟหน้าแบบ Adaptive LED ดีไซน์โคมคล้ายกับ BMW X5 พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime พร้อมคิ้วตกแต่งสีฟ้า ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปตัวถังแบบยกก้านดั้งเดิม ไฟท้าย LED สองก้อน กันชนหลังดีไซน์มาดดุ ออกแบบให้หลังคาคล้ายกับรุ่นพี่ BMW X4 พร้อมล้ออัลลอยลาย V-spoke 873 แบบสลับสี ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/40R20 ตกแต่งด้วยดุมล้อขอบโลโก้ BMW สีฟ้าและดิสก์เบรกสีฟ้า
ตัวรถพัฒนามาจาก BMW X1 บนแพลต์ฟอร์ม UKL2 platform ใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,554-4567 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,845 มิลลิเมตร ความสูง 1,560-1,690 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,692 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 167-207 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,570-2,020 กิโลกรัม
ภายในนำเสนอบรรยากาศพรีเมียมทันสมัยพร้อมให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับกลิ่นอายความสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Aluminium พร้อมแถบกราฟิก และเบาะที่นั่งสปอร์ตหุ้มหนัง M Alcantara/Veganza ผสานสีดำ ตัดกับตะเข็บสีน้ำเงิน คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec นอกจากนั้น อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ได้แก่ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง แบบ M Sport สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
หลังคากระจกพาโนรามาที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ยังให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางและสะดวกสบาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ชุดกระจกมองข้าง และกระจกมองหลังพร้อมฟังก์ชั่นป้องกันตาพร่า (Anti-Dazzle) ยังติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นนี้ด้วย ฟังก์ชันกล้องภายในรถยนต์ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถถ่ายภาพภายในรถขณะที่จอดอยู่ได้ มาพร้อมกับระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
คอนโซลหน้าแบบ Hyperscreen ที่มี จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิตอล 10.25 นิ้ว และจอสัมผัส 10.7 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัวมารวมกัน พร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ BMW Operating System 9 หรือ iDrive 9 การสื่อสารที่ฉับไวแบบ 5G ระบบแท่นชาร์จไร้สาย คุณลักษณะเด่นอีกประการของรุ่นรถยนต์นี้คือระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto
ลำโพงคุณภาพจาก Harman Kardon 12 จุด จอเหนือแผงคอนโซลหน้า head-up display เกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่แบบปุ่มบิดแทนคันเกียร์ ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ช่องเสียบ USB-C ports 4 จุด และช่องเสียบ 12V 2 จุดและที่ชาร์จมือถือไร้สาย เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 ที่มีพื้นที่ด้านท้ายมากถึง 520-1,400 ลิตร ในรุ่น iX2 กับ 515-560 ลิตร ในกรณีไม่พับเบาะ
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบ eDrive technology เจนที่ 5 ด้วยความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 66.5 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวคู่หน้าและคู่หลังให้กำลังเท่ากัน 190 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 247 นิวตันเมตรที่ 0-4,900 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 313 แรงม้าที่ 4,300-15,200 รอบต่อนาที แรงบิด 494 นิวตันเมตรที่ 0-4,300 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุด 417-449 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ให้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 5.65-6.13 กิโลเมตรต่อkWh (17.7-16.3 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยการชาร์จช้ากระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ภายใน 3.45 ชั่วโมง ชาร์จ AC แบบ 11kW 0-100% ได้ 6.15 ชั่วโมง ด้านชาร์จเร็วกระแสตรง DC สูงสุด 130 kW จาก 10-80% ภายใน 29 นาที และถ้าชาร์จ 10 นาที เพิ่มระยะทางการวิ่งไกลอีก 120 กิโลเมตร
ติดตั้งมากับระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ซึ่งสามารถอัปเกรดให้เป็นระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Plus (Driving Assistant Plus) ผ่านทาง ConnectedDrive Store ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยทั้งในการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกลอีกด้วย ช่วงล่าง Adaptive M ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ตอันเร้าใจ ส่วนระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
BMW iX2 เจนใหม่เปิดขายในไทยรุ่นเดียวรุ่น iX2 xDrive30 M Sport ในราคาพร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard เพียง 3,399,000 บาท มีให้เลือกใน 5 สีตัวถัง ได้แก่ สีเทา Brooklyn Grey, สีดำ Sapphire Black, สีขาว Alpine White สีเขียว Cape York Green และสีแดง Fire Red