หลังจากกวาดยอดขายในจีนกว่า 200,000 คัน และเป็นรุ่นที่สร้างกำไรมหาศาลให้กับค่าย BYD สำหรับ BYD Seagull หรือชื่อใหม่ BYD Dolphin MINI
เจ้านางนวลน่ารักจากตระกูล Ocean ได้โกอินเตอร์ไปขายในต่างประเทศประเดิมด้วยทวีปอเมริกาใต้ ทั้ง อุรุกวัย บราซิล เม็กซิโก เป็นต้น ตัวรถทรงกล่อง 5 ประตู ทรงเล็กว่า BYD Dolphin เท่ด้วยไฟหน้า LED พร้อมตรา BYD ขนาดใหญ่รับกับชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่
ด้านข้างมาพร้อมเส้นสายทันสมัยออกแบบกระจกบานหน้าบานหลังเล่นระดับพร้อมที่เปิดประตูแบบยกก้านดีไซน์คล้ายรถยุค 90 ด้านท้ายเล็กตามตัวรถด้วยไฟท้าย LED แนวยาวใต้ไฟท้าย ชุดกันชนหลังติดตั้งป้ายทะเบียนรถใต้ฝาท้ายล้อและยางมาแบบอัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 175/55R16
สร้างจากแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 ตั้งแต่ความยาว 3,780 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,715 มิลลิเมตร ความสูง 1,580มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,500 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 120 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,540 กิโลกรัม
ภายในคล้ายกับ BYD Dolphin รุ่นพี่ เริ่มที่แผงคอนโซลหน้าแต่ปรับในส่วนช่องแอร์ของแผงคอนโซลหน้าซ้าย-ขวา ตรงกลางใต้แผงจอสัมผัส เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนไม่ใช่ทรงกลม
เบาะนั่ง Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมช่องเสียบ USB 4 จุด มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับธรรมดาแบบ 6 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 มีพื้นที่สัมภาระท้ายก่อนพับเบาะ 230 ลิตร และกุญแจแบบการ์ด NFC
ขุมพลังไฟฟ้านั้นให้กำลังมากสุด 74 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น TZ180XSH ใช้แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน ที่ต้นทุนถูกกว่าแบตนิเกิล-เมทัลไฮไดรด์ และแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนฟอสเฟต โดยมีความจุแบตเตอรี่ถึง 2 รูปแบบเริ่มที่รุ่น Dolphin MINI ให้ความจุแบตเตอรี่ 30.08 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 300 กิโลเมตร
และรุ่น Dolphin MINI Plus ให้ความจุแบตเตอรี่ 38.88 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 380 กิโลเมตร การชาร์จมีสองรูปแบบทั้งชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% ในเวลา 30 นาที กับชาร์จช้ากระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 6 kW ทั้งคู่ให้ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.9 วินาที และ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 13 วินาที
ความปลอดภัยมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) กล้องมองภาพด้านหลัง ช่วยจอดรถอัตโนมัติ
BYD Dolphin MINI ขายที่เม็กซิโกเริ่มต้น MXN 358,800-398,800 หรือราว 761,000-845,000 บาท ส่วนออสเตรเลียขายภายในปีนี้ และเมืองไทยเป็นหนึ่งในเจ็ดรุ่นใหม่มาโชว์เพื่อให้ชาวไทยได้รู้จักในงาน Bangkok Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน และอาจเป็น 1 ใน 5 รุ่นที่จะขายไทยภายในปีนี้
