ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ฮอนด้า เคยนำเข้าเอ็มพีวีเล็กอย่าง Honda Freed จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากครอบครัวและคนเมืองหัวใจทันสมัย
และยุติการขายไปไม่นานจนมี Honda Freed เจนที่ 2 และเจนล่าสุดเจนที่ 3 เปิดตัวได้ไม่นาน จนอยากให้ Honda นำเข้ามาขายในไทย ด้วยตัวรถใหม่หมดแปลกตาพร้อมกระจกบานใหญ่ตลอดทั้งคันเพื่อทัศนวิสับการมองเห็นที่ชัดเจนรวมกระจกหูช้างบานเล็กในกระจกคู่หน้าพร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ประตูสไลด์สองข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้ารวมถึงฝาท้ายดีไซน์เรียบง่ายชุดไฟหน้ารมดำมาแบบ LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED อยู่ส่วนบนของชุดโคมไฟหน้านอกจากไฟ DRL ยังเป็นไฟเลี้ยวในตัว และไฟท้ายรมดำแบบ LED เข้มสะดุดตา ล้อมาแบบอัลลอยและกระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65R15
โดย Honda Freed AIR เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ด้วยกระจังหน้า สีดำเข้มพร้อมคิ้วโครเมียมติดตราตัวเอช ขอบสีน้ำเงินเพื่อสื่อถึงว่าคันนี้เป็นฟูลไฮบริดในชุดกันชนหน้าดีไซน์แปลกด้วยช่องระบายอากาศสองจุดพร้อมล้ออัลลอยลายทูโทน 7 ก้าน ขนาด 15 นิ้ว พร้อมตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ ความยาว 4,310 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ความสูง 1,750 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร
ภายในใหม่หมดตกแต่งตามสไตล์ ด้วยโทนสีเบจเทาและสีเทาดำ ในรุ่น AIR พร้อมห้องโดยสารที่มาทั้งแบบ 3 ตอนทั้ง 6 กับ 7 ที่นั่ง ที่สามรถปรับพับเบาะเพิ่มพื้นที่ในการขนของมากขึ้นโดยเบาะตอนที่ 3 ยังพับแบบ 50/50 แขวนบนเสา C และ D สำหรับตอนที่ 2 มาทั้งแบบ 3 ที่นั่งมีที่พักแขนในตัว และ 2 ที่นั่งแบบ Captain Seat พร้อมที่ท้าวแขนสองฝั่ง สามารถปรับเลื่อนได้ ชุดเบาะนั่งทั้งแบบผ้ากันน้ำหกและหุ้มกึ่งหนังแท้ให้เลือก
คอนโซลหน้ารูปตัวทีใหม่หมดใช้งานง่ายมีช่องวางแก้วและวางของจุกจิกหลายจุดรอบๆแผงพร้อมวัสดุหุ้มผ้าในชุดแผง รวมถึงชุดแผงประตู มาตรวัดดิจิทัลจอสี LCD บนคอนโซลหน้า ชุดจอสัมผัสขนาดใหญ่ 11.4 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย พร้อมระบบนำทางในจอและ Honda Connect เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์บนหลังคา คอนโซลเกียร์พร้อมสวิตช์แอร์ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม AUTO HOLD ในแผงเดียวกัน ช่องเสียบ USB ม่านบังแดดประตูข้างสองข้าง ปุ่ม Push Start และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านหุ้มหนัง
ขุมพลังยกมาจากเจนที่แล้วเน้นทำตลาดเบนซินไฮบริด e:HEV ด้วยรหัส LEB-H1 ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานด้วยระบบ Atkinson cycle พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ sport i-DCD 7 สปีด โดยให้กำลังภาคเครื่องยนต์ 98 แรงม้า ที่ 5,600-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบชุดแม่เหล็กแบบนีโมเดี้ยม แทนแร่โลหะหนัก Rare Earth ให้กำลัง 29.5 แรงม้าที่ 1,313-2,000 รอบต่อนาที แรงบิด 160 นิวตันเมตรที่ 0-1,313 รอบต่อนาที และระบบแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion battery พร้อมให้กำลังรวมสูงถึง 109 แรงม้าที่ 3,500-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบต่อนาที เลือกได้ทั้งแบบ ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ
และยังมีเบนซิน i-VTEC 1.5 ลิตร รหัส L15B1 ให้กำลัง 131 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 155 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT เลือกได้ทั้งแบบ ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ
พร้อมความปลอดภัยขั้นเทพ Honda Sensing เพิ่มออปชันใหม่ทั้ง ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA) ช่วยเบรกระยะสั้น Short-distance collision mitigation brake ควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto high beam (AHB) สัญญาณกะระยะการจอด Parking sensor system
ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด Sudden Acceleration Suppression Function ไฟหน้าอัจฉริยะช่วยปรับไฟสูง-ต่ำแบบแยกอิสระซ้าย-ขวาโดยอัตโนมัติ มีรถกำลังสวนทางมาหรือมีรถยนต์ด้านหน้าAdaptive Driving Beam (ADB) เตือนเมื่อมีรถขณะเปิดประตู Backward exit support และตรวจสอบจุดอับสายตา Blind Spot Monitor (BSM)
พร้อมออปชันอื่นๆทั้ง เตือนการชนด้านหน้ากับตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์ Collision Mitigation Braking System (CMBS) ป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะเดินหน้า Erroneous start suppression function ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะถอยหลัง Erroneous rear start suppression function ช่วยหักเลี้ยวเพื่อหลบคนเดินถนน Pedestrian accident reduction steering Road departure prevention function
เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Leading vehicle start notification function จดจำสัญญาณ Sign recognition function และควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
Honda Freed เจนใหม่พร้อมโรดโชว์ทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม-24 มิถุนายน หลังจากนั้นจะเปิดตัวอีกครั้งและประกาศราคาในวันที่ 28 มิถุนายน ขายสองเกรดตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และรุ่น EX งานนี้ต้องส่งกำลังใจไปยัง Honda ไทยเพื่อให้นำเข้าเจนใหม่นี้มาขายในไทย