เพื่อต้อนรับมาตรฐานไอเสียใหม่ที่มีผลบังคับใช้ Hyundai แนะนำ Hyundai Staria เครื่องยนต์พัฒนาใหม่ผ่าน EURO 5
Hyundai Staria EURO 5 จำหน่ายช่วงแรกด้วยรุ่น PREMIUM เริ่มที่ปรับโลโก้ใหม่ใหม่รอบคันเป็นแบบสองมิติ เสาอากาศแบบ Shark Fin และล้อสีดำเงาแบบ High Gloss ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R18 นอกนั้นคงเดิมทั้ง หลังคาซันรูฟคู่ Dual Sunroof ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมแผงไฟหน้า ดีไซน์ Brass Chrome ทองแดง สำหรับตัวถังสีดำและ Dark Chrome รมดำ สำหรับตัวถังสีขาวและสีเทา ตกแต่งในกระจังหน้าและชุดแต่งรอบคันกันชนด้านหน้าและหลัง
ทางด้านรุ่น Trend S มาพรัอมชุดแต่งรอบคันประกอบด้วย ชายกันชนหน้า – หลัง และ สเกิร์ตข้าง อุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ล้อและยางขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/65R17 พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้างและประตูท้ายไฟฟ้า
ออปชันเดิมตั้งแต่ไฟหน้า Projector แบบ Full LED พร้อมระบบเปิด ปิด อัตโนมัติ กระจกบังลมด้านหน้าลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เพิ่มความหรูหรา พร้อมไฟ DRL แบบ LED ไฟท้าย LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์ในแบบตาราง ๆ กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก และ กระจกบานหน้าใหญ่ ลาดเอียงไปถึงแนวหลังคาด้านบน และระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าดูสั้นลงกว่าเดิม
ภายในเปลี่ยนช่องชาร์จ USB มาเป็นแบบ Type C ทั้งสองรุ่น นอกนั้นคงเดิมในรุ่น Trend S ห้องโดยสารแบบ 11 ที่นั่ง เพลิดเพลินและสะดวกสบายพร้อมคุณภาพการเก็บเสียงเหนือระดับพร้อมออปชันเด่นทุกรุ่นทั้ง มาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงเท่
สวิตช์เปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้า พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเสียบ USB 7 ช่อง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold กุญแจรีโมทพร้อม Smart Keyless Entry และสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start
รุ่น PREMIUM หรูขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุ SUADE ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารปรับได้ถึง 10 แบบ ที่เปิดประตูคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แป้นคันเร่งและเบรก ตกแต่งด้วยโครเมียมและอลูมิเนียม ชุดแต่งบันไดข้างดีไซน์พิเศษ สัญลักษณ์ STARIA ชุดเครื่องเสียง BOSE ลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายและสุนทรียภาพทุกการเดินทางแบบ 11 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองนั่งได้สามที่นั่งเพิ่มที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำและเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทางพร้อมดันหลัง
ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGT 2.2 ลิตร รหัส D4HB ให้กำลัง 175 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐาน EURO 5 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบปุ่มกด Shift-by-Wire พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้ช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงค์ด้านหลัง เพิ่มความนุ่มนวล
พร้อมความปลอดภัย Hyundai Smart Sense อาทิ
- ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist
- ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist
- ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist
- ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driving Attention Warning
- ป้องกันการออกจากรถ เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
- ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist
- แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert
- กล้องมองรอบทิศทางและจุดอับสายตา
- แจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control
- ถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง
รุ่น Trend S มีสีตัวถังยังคงมีให้เลือก 3 สีตามสไตล์ทั้ง สีดำ Abyss Black Pearl, สีเทา Graphite Gray Metallic และ สีเทา Shimmering Silver Metallic ภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ เฉพาะสีภายนอกรถสีดำ และสีดำ เฉพาะสีภายนอกสีเทาและสีเงิน มาในราคาใหม่ 1,819,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 20,000 บาท)
รุ่น PREMIUM มีสีภายนอกให้เลือก 3 สีคือ สีดำ Abyss Black Pearl แต่งชุด Brass chrome สีขาว Creamy White แต่งชุด Dark chrome และสีใหม่สีเทา Graphite Gray Metallic แต่งชุด Dark chrome ทั้งสามสีภายในสีดำ มาในราคาใหม่ 2,419,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 20,000 บาท)
