เปิดตัวพร้อมกับ Lexus GX เจเนอเรชันที่ 3 กับเอสยูวีสามแถวที่พัฒนาสำหรับชาวอเมริกาโดยเฉพาะเน้นกลุ่มครอบครัวที่รักกิจกรรมในวันหยุด
Lexus TX หน้าตาคล้ายกับ Lexus LM มาผสมกันตั้งแต่กระจังหน้าขนาดเล็กเส้นมีขอบสีเงินโครเมียมแบบ Spindle Grill พร้อมตราโลโก้ Lexus บนขอบฝากระโปรงหน้าชุดไฟหน้า LED ดีไซน์เรียบหรู พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning Lamps ชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่แบบรังผึ้งรูปตัว Z ด้านข้างตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา D มีความโดดเด่นตรงเสา D ทาด้วยสีดำและมีคิ้วโครเมียมอยู่บนกระจกรถ กระจกมองข้างทรงสปูน
ออกแบบด้านท้ายสวยงามด้วยชุดไฟท้าย LED ดีไซน์หรูและประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า power tailgate พร้อมระบบ kick-sensor เหวี่ยงเท้าไปยังใต้กันชนหลังเพื่อเปิดประตูท้าย หลังคาแบบ Panoramic Moonroof พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกถึง 2 ขนาดตั้งแต่ 20 นิ้วพร้อมยาง 255/45R20 และขนาด 22 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 คันนี้นำพื้นฐานมาจาก Toyota Grand Highlander บนแพลตฟอร์ม TNGA-K มาพัฒนาดีไซน์ให้เป็นตามสไตล์ Lexus ตั้งแต่ความยาว 5,170 มม. ความกว้าง 1,990 มม. ความสูง 1,780 มม. และฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในของ Lexus TX หรูด้วยเบาะนั่งสามแถวทั้งแบบ 2-2-3 รวม 7 ที่นั่ง ส่วนที่นั่งตอนที่สอง มาแบบ 2 ที่นั่ง Captain Seat พร้อมที่วางแขน ติดตั้งลำโพงคุณภาพอย่าง Mark Levinson 21 จุด ติดตั้งในชุดแผงประตูพร้อมที่เปิดประตูดีไซน์ทันสมัยและออปชันประจำรถทั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนสีของมาตรวัดสี่โหมดทั้งโหมด Casual, Smart, Tough และ Sporty จอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว รองรับความบันเทิง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto
ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายและเสียบสาย USB-C 7จุด จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า head-up display และ ระบบอุ่นเบาะ กระจกมองหลังแบบดิจิตอล gรียกว่าจุใจจัดเต็มเลยทีเดียวโดยเบาะนั่งตอนสองกับตอนสุดท้ายพับลงจะมีพื้นที่มากถึง 2,747 ลิตร และพื้นที่วางของตอนไม่พับเบาะตอนที่สามมีพื้นที่ 569 ลิตร และพับเบาะตอนสามมีพื้นที่ 1,625 ลิตร เบาะนั่งคนขับคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางสำหรับคนขับและ 8 ทิศทางสำหรับคนนั่งหุ้ม
ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ Dynamic Force Engine 2.4 ลิตร T24A-FTS 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift เช่นเดิมพร้อมให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD ยังเพิ่มทางเลือกด้วยเบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid 2.4 ลิตร T24A-FTS 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยให้กำลังรวม 371 แรงม้า แรงบิด 555 นิวตันเมตรพร้อมขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4 AWD จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
และเบนซินไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก 3.5 ลิตร V6 PHEV 2GR-FXS กำลังรวม 411 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT เมตรพร้อมขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4 AWD ทุกรุ่นเสริมด้วยโหมดการขับขี่มีให้เป็นมาตรฐาน 3 แบบคือ Sport, Eco, Normal แต่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Multi-Terrain Select ที่จะมี Mud & Sand Rock & Dirt, Snow
พร้อมความปลอดภัย Lexus Safety System+ 3.0 ทั้ง ระบบควบคุมระยะห่างและความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็ว DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane-Departure System ช่วยติดตามเลน Lane Centering ช่วยเบี่ยงรถจากอุปสรรค ไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะและช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA)และช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Proactive Driving Assist (PDA) Emergency Steering Assist เซนเซอร์รอบคันพร้อมเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ทุกความเร็ว
สุดยอดเอสยูวีหรูอย่าง Lexus TX ผลิตที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Indiana ในเมืองพรินซ์ตัน รัฐอินเดียนา โดยขายที่อเมริกาตั้งแต่ปเดือนกันยายน
ที่มา Carwatch
