หลังจากเมืองไทยเปิดตัวรุ่นปี 2024 ปรับลุค เพิ่มออปชัน ในราคาที่จับต้องได้สำหรับ Mazda BT-50 ปิกอัพฝาแฝด ISUZU D-MAX
ล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัวตามหลังไทยหน้าตายังคงเดิมทั้ง กระจังหน้าซิกเนเจอร์วิงสีดำเงาประกบกับไฟหน้า Projector แบบ LED โคมเรียวสวยงาม กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอกหน้าแนวตั้งตกแต่งสีดำเงา มาพร้อมล้อที่มีให้เลือกตั้งแต่ ล้ออัลลอยกับกระทะล้อขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 ล้ออัลลอยดีไซน์คุ้นเคย 5 ก้านคู่และลายเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 รับกับฝากระบะท้ายดีไซน์สปอร์ต พร้อมกันชนหลังดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจน และไฟท้ายสีขาวแดงมัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมออปชันเด่นในแต่ละรุ่นเริ่มที่
- รุ่น GT ตกแต่งใหม่เพิ่มความสปอร์ตด้วยห้องโดยสารภายดีไซน์ใหม่ด้วยเบาะหนังสีน้ำตาล ภายในเข้มโทนสีน้ำตาล-ดำ แผงบุหลังคารถกำมะหยี่ขึ้นรูปสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อนได้ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า และกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวตกแต่งโครเมียมปรับพับไฟฟ้า
- รุ่น SP มาพร้อมชุดแต่งสีดำเงา ประกอบด้วยชุดแต่งกันชนหน้า สปอร์ตบาร์ กระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ มือจับเปิดประตู ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักของรถปิกอัพในปัจจุบันที่ต้องการรถปิกอัพสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และยังสะท้อนบุคคลิกอันโดดเด่นได้อย่างลงตัว
- รุ่น Thunder อัพเกรดความโหดไปอีกขั้นด้วยชุดแต่งกันชนออฟโรดหน้าสีดำไฟสปอตไลท์LED Light Bar แนวยาวขนาด 20 นิ้ว คิ้วตกแต่งซุ้มล้อสุดเท่ บันไดข้างทรงโหด สปอร์ตบาร์เหล็กสีดำเข้มทรงสปอร์ตฝาปิดกระบะท้ายรถแบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 18 นิ้ว
ภายในออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผ่านการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งด้วยความประณีตและสัมผัสได้ถึงคุณภาพขั้นสูงของห้องโดยสาร อุปกรณ์มาตรฐานได้รับการอัพเกรดเพื่อเน้นตอบสนองความต้องการในการใช้งานและไลฟสไตล์ของทั้งคนขับและผู้โดยสาร หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วและ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple CarPlay® แบบไร้สายและ Android Auto™ เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้ขีดจำกัดรวมถึงระบบนำทางในตัวในจอ 9 นิ้ว Charging Socket แบบ USB ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง มาตรวัดเรืองแสงพร้อม MID ขนาดใหญ่ 4.2 นิ้ว แบบ TFT พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ Tilt & Telescopic
เบาะนั่งคู่หน้าลดความเมื่อยล้า พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับมีปุ่มดันหลังด้วยไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศปุ่มหมุนแบบ Full Mode Control พร้อมทิศทางลม 5 ตำแหน่งรวมตำแหน่งไล่ฝ้ากระจกหน้า ทั้งแบบหมุนและอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ระบบเสียงรอบทิศทางตั้งแต่ 4 ลำโพง 6 ลำโพง และสูงสุด 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
ขุมพลังดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo มีกันถึงสองทางเลือกเริ่มที่รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที และรุ่น RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาทีมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic
ทั้งสองเครื่องมาพร้อมเทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้ มาตรฐานยูโร 5 สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue
เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคันครบครันด้วยควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติอัจฉริยะ IACC (Intelligent Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
นอกนั้นคงเดิมทั้งระบบอ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) แจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสภาวะฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping) และป้องกันการพลิกคว่ำ ROP (Roll Over Protection)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ MAM (Mis Acceleration Mitigation) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beams) ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist)
พร้อมออปชันความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
สัญญาณเตือนการจอด Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ตัดการทำงานของ BSM และ RCTA แบบอัตโนมัติในกรณีลากจูง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ตรวจวัดลมยาง Tyre Pressure Monitoring System (TPMS) Welcome Light ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร และ Welcome Headlight ไฟหน้ารถทั้งคู่จะเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถ ในระยะ 2 เมตร และกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะการจอดเลี้ยวตามโค้ง
Mazda BT-50 MY2024 นำเข้าจากไทยมีจำหน่ายทั้งแบบกระบะท้ายมาตรฐานและกระบะเรียบ cab-chassis แบ่งเป็น 6 เกรดตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น XS, XT, XTR, GT, SP และ Thunder ในบอดี้ตอนเดียว Single Cab ตอนครึ่ง Freestyle Cab และ 4 ประตู Double Cab ในราคาไม่รวมค่า On-Road เริ่มต้น $35,520-$74,095 หรือราว 859,000 – 1,804,000 บาท
ที่มา Carsales