สร้างเซอร์ไพรส์ประหลาดใจให้กับแฟนๆด้วยการเปิดตัว Nissan ARIYA NISMO กลางงาน Tokyo Auto Salon 2024 จนเรียกร้องอยากให้ขายจริง
Nissan AIYAR NISMO โดดเด่นทั้งคันด้วยชุดแต่งแท้จาก NISMO ที่ออกแบบมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะจากพื้นฐานรุ่น e-4ORCE ตั้งแต่ ชุดสเกิร์ตเสริมกันชนหน้าสีดำขลิบสีแดงติดตรา NISMO ยาวไปจนถึงซุ้มล้อสีดำ
สเกิร์ตด้านข้างใต้ประตูและสเกิร์ตกันชนหลังตกแต่งสีดำเงาขลิบสีแดงพิเศษมีลิ้นสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ในชุดกันชนหลังมาด้วย มีคิ้วสีเงินตกแต่งกรอบกระจกรอบคันกระจกมองข้างตกแต่งสีดำขลิบแดง สปอยเลอร์หลังออกแบบพิเศษติดบนฝาท้าย และล้ออัลลอยลายห้าก้านทูโทนขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20
หล่อเดิมๆจากกระจังหน้ารูปตัววีทรง “โล่ หรือ shield” ไฟหน้า LED โคมเรียว แผงไฟท้าย LED ดีไซน์ยาว หลังคาที่ลาดลงคล้ายรถคูเป้ เน้นความเรียบง่าย มีเสน่ห์ ในสไตล์ Timeless Japanese Futurism” หรือ “โลกแห่งอนาคตแบบญี่ปุ่นที่อยู่เหนือกาลเวลา”
ระยะระหว่างล้อกับกันชนหน้าหลังที่สั้น ส่งผลให้มิติตัวรถลงตัวอย่างยิ่งตั้งแต่ ความยาว 4,650 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ความสูง 1,650-1,660 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,080-2,220 กิโลกรัม
ภายในโดดเด่นด้วยโทนดำแดงกับเบาะนั่งหุ้มหนังกลับสีดำแปะตรา NISMO แบบ Zero Gravity ที่สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทาง พร้อมขลิบสีแดงดีไซน์โดดเด่นในชุดกล่องคอนโซลกลาง ชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูหุ้มหนังสัมผัสเดินด้ายแดง
แผงสีเงินรังผึ้งแบบร้อนแรงข้างแผงสวิตช์กระจกไฟฟ้าสี่บานในชุดแผงประตูและใต้คอนโซลหน้าแบบรังผึ้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านหุ้มหนังเดินด้ายแดงมีแถบแดงด้านบนของพวงมาลัย ช่วยให้ควบคุมรถง่ายขึ้นขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง และติดตรา NISMO ข้างๆปุ่ม Push Start
พร้อมมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วอยู่ในชุดเดียวกัน อินเทอร์เฟซระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ภาษาธรรมชาติเพื่อปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์ได้ รวมถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ต่างๆ แบบไร้สายมีความแปลกใหม่น่าตื่นเต้น
ยังมีเทคโนโลยีช่วยเหลืออย่าง Amazon Alexa เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดความซับซ้อนและจัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตของพวกเขาได้ง่ายขึ้นและความจุสัมภาระมากถึง 408 กับ 466 ลิตร จอแสดงผลข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า HUD head-up display และ Nissan Connect เชื่อมต่อการใช้งานของรถยนต์ผ่านสมาร์ตโฟน
ขุมพลังมีให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่มีความจุของแบตเตอรี่สองขนาด ตั้งแต่ 66 kWh เพิ่มกำลังเป็น 367 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตร ในรุ่น Nismo B6 e-4ORCE และรุ่น Nismo B9 e-4ORCE มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 91 kWh ให้แรงม้า 435 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร โดยทั้งคู่ไม่ได้แจ้งเรื่องความเร็วสูงสุด วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและการชาร์จทั้ง AC และ DC เร็วสุดเท่าไหร่
คาดว่าอาจเท่ากับ Nissan ARIYA รุ่นปกติทั้ง วิ่งไกลสุด 430 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ในรุ่น 66 kWh และ 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP ในรุ่น 91 kWh Top Speed ความเร็วสูงสุดอาจป่วนเปี้ยนแถวๆ 160 และ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE เน้นควบคุมได้สำหรับล้อทั้งสี่ ให้ความสมดุลในประสิทธิภาพที่ทรงพลังพร้อมรองรับการขับขี่ในทุกสภาพอากาศ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทำให้การขับขี่มีความสมดุลและมั่นคงด้วยพลังระดับรถสปอร์ตในพริบตา
ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นและมีเครียดลดลงด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT 2.0 ช่วยเหลือผู้ขับขี่ และระบบช่วยจอดผ่านรีโมต หรือ ProPILOT Remote Park
และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ e-Pedal มาพร้อมกับความปลอดภัย แบบ 360 องศา หรือ 360 Safety Shield ที่มีทั้งเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking และเทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย Rear Automatic Emergency Brake
เบื่องต้น Nissan ARIYA NISMO เตรียมเปิดขายที่ญี่ปุ่นมิถุนายนในราคาเริ่มต้น 8,429,300-9,441,300 Yen หรือราว 2,029,000-2,275,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย
ที่มา Carwatch