นับเป็นรถเอสยูวีที่ประสบความสำเร็จทั้งในญี่ปุ่นและบางประเทศซึ่งรวมถึงเมืองไทยกลายเป็นรถที่ขายดีของค่ายเพื่อนที่แสนดีสำหรับ Nissan Kicks
แต่ด้วยเจเนอเรชันที่ 1 ทำตลาดมาถึง 7 ปี ซึ่งก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องมีเจเนอเรชันที่ 2 สานต่อความสำเร็จล่าสุดมีภาพหลุดของ Nissan Kicks เจนที่ 2 ออกมาให้ชมกันแบบพรางตัวสีดำทั้งคันถึงจะปิดแบบมิดชิดแต่ดีไซน์การออกแบบนั้นดูสปอร์ตปราดเปรียวกว่าเดิมแถมตัวรถใหญ่ขึ้นเล็กน้อย กระจังหน้ารูปตัววียังคงเอกลักษณ์เช่นเคยติดตราโลโก้ Nissan เวอร์ชันใหม่พร้อมไฟหน้า LED ดวงใหม่ดีไซน์เพรียวลง ด้านข้างไม่เทอะทะอีกต่อไปกับหลังคารถทรงสปอร์ตลาดลงดูดีขึ้นพร้อมราวหลังคา มีกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่แบบทรงสปูน คิ้วขอบล้อทรงใหญ่ เสา C กับ D ดูใหญ่ขึ้น ด้านท้ายมาแนวเหลี่ยมดูดีในชุดฝาท้ายพร้อมสปอยเลอร์หลังกับกันชนหลังออกแบบใหม่
ภายในถึงไม่มีรูปให้ดูแต่คาดว่าจะได้ออปชันเก๋ๆมาให้ทั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ทันสมัยประมวลผลแม่นยำรองรับ Apple CarPlay Android Auto เบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งโดยเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัดสามก้าน
ขุมพลังยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ว่าจะเป็นขุมพลังใหม่หมดหรือขุมพลังเดิมปรับกำลังใหม่โดยพื้นฐานเครื่องเดิมมีทั้งเบนซินล้วน 1.6 ลิตร HR16DE 122 แรงม้าที 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 154 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และเบนซิน e-Power แบบเบนซิน HR12 DE 1.2 ลิตร e-Power 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาทีในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 2.06 kWh มีจำนวน 4 โมดูล 96 เซลล์ พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 AC3 Synchronous Motor
ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 136 แรงม้าที่ 3,410-9,697 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 280 นิวตันเมตรที่ 0-3,410 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้าและมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแรงม้าแรงบิดเท่ากันมอเตอร์ล้อหน้าอันเดียวกันแต่งานนี้เพิ่มมอเตอร์หลัง MM48 AC3 Synchronous Motor ให้พลัง 68 แรงม้าที่ 4,775-10,259 รอบ/นาที แรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 0-4,775 รอบ/นาที ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 204 แรงม้าที่ 8,185-19,956 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 380 นิวตันเมตรที่ 0-8,185 รอบ/นาที
ทั้งสองรูปแบบจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed Gear Reduction พร้อมโหมดการขับ Normal, S, Eco, และ EV ให้พละกำลัง ได้รวมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) กับมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ไว้เป็นยูนิตเดียวกัน ทำให้ส่วนของ Inverter มีขนาดเล็กลง 40% น้ำหนักลดลง 30%
พร้อมเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ e-Pedal step ช่วยให้ผู้ขับสามารถเร่ง หรือชะลอความเร็วได้เพียงการใช้แป้นคันเร่งเดียว ให้ความนุ่มนวลของการขับขี่ที่มากขึ้น ทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ Sport MODE และ ECO MODE (ทั้งตำแหน่ง D และ B) เมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าจากคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและง่ายมากขึ้น การปรากฏตัวของ Nissan Kicks เจเนอเรชันที่ 2 นั้นยังไม่แน่ชัดว่าจะเปิดตัวช่วงไหนเป็นไปได้ว่าก่อนสิ้นปีนี้อาจได้พบกันและจะเป็นการมาแทน Nissan Qashqai
ที่มา Motor 1 และ Automedia