ทยอยเปิดตัวกันไปแล้วในหลายประเทศสำหรับ Peugeot 2008 รุ่นปรับโฉมในร่างเจเนอเรชันที่สองหลังฝรั่งเศสเปิดตัวที่แรกเมื่อข่วงปีที่แล้ว
และออสเตรเลียเป็นรายล่าสุดเปิดตัวปรับโฉมเริ่มที่กระจังหน้าแบบไร้กรอบพร้อมโลโก้สิงห์เวอร์ชันใหม่สวยงามล้ำสมัยเพิ่มความชัดเป็นเส้นครีบทอดยาวใต้ไฟหน้า Full LED สามารถทำงานเป็นไฟตัดหมอกได้ในตัว (Foggy Mode) ไฟ DRL แนวตั้งสามเส้นคล้ายเขี้ยวสิงโตอยู่ด้านข้างกันชนทั้งสองข้าง พร้อมโลโก้ 2008 บนฝากระโปรง ราวหลังคาและหลังคารถตกแต่งสีดำ
ด้านท้ายมีการปรับด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่แบบกรงเล็บสิงโต ‘lion claws’ แนวนอนสามเส้นบน-ล่าง งานนี้ไม่มีโลโก้สิงห์เขย่งขาและกลายเป็นโลโก้ตัวอักษรระดับเดียวกับชุดไฟท้ายกันชนหลังปรับดีไซน์ใหม่เสริมคิ้วใต้กันชน ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง พร้อมยาง 215/55 R18 เป็นออปชันเสริมเพิ่มเงินในรุนท็อปGT
Peugeot 2008 มาในรหัส P24 ตั้งแต่ความยาว 4,300 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,987 มิลลิเมตร ความสูง 1,550 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,605 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ 221 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,180 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 44 ลิตร และรัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร
ภายในมีการปรับออปชันตั้งแต่ ‘i-Cockpit 3D’ ด้วยจอสัมผัสแบบ Touchscreen 10 นิ้วใหม่ PEUGEOT i-Connect รองรับ Wireless Apple CarPlay® & Android Auto™ มาตรวัดดิจิทัลแบบ Head-Up Display 3D ใหม่แสดงข้อมูลหลากหลายขนาด 10 นิ้ว ในรุ่น GT พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันลุคใหม่เข้มขึ้นด้วยโลโก้สิงห์เวอร์ชันใหม่ขนาดวงกะทัดรัด สวิตช์ควบคุมทรงก้านเปียโนสวยงาม เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
สร้างความรู้สึกพิเศษได้ดี พาโนรามิกซันรูฟ ลำโพงมากสุด 6 จุด พร้อมช่องเสียบ USB-C 2 ช่องที่ด้านหน้า ช่องเสียบ USB-C 1 ช่องเสียบ และช่องเสียบ USB-A 1 ช่องเสียบที่ด้านหลัง เบาะนั่งแถวที่สองที่สามารถปรับพับได้แบบ 40/60 โดยมีพื้นที่มากถึง 1,467 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่สัมภาระ 434 ลิตร และสามารถถอดแผงปิดสัมภาระที่ไม่มีสายคล้องได้
ในรุ่นท็อป GT มาพร้อมออปชันที่เหนือกว่าทั้งชุดเบาะนั่งหุ้มหนังกลับอาคันทาร่า แบบนวดได้และอุ่นเบาะคู่หน้า โดยฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง แท่นชาร์จมือถือไร้สาย ระบบนำทาง sat-nav เอฟเฟกต์ 3 มิติ และไฟสร้างบรรยกาศภายใน ambient light 8 สี
สำหรับออสเตรเลียจำหน่ายช่วงแรกด้วยขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร PureTech 130 แรงสุด 131 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด EAT8 ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมโหมดการขับขี่ Eco, Normal และ Sport ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัดน้ำมัน 18.52 กิโลเมตรต่อลิตร
ความปลอดภัยมีครบทั้งระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go Adaptive cruise control with Stop & Go function ในรุ่น GT พร้อมจำกัดความเร็ว Speed limit และตั้งความเร็วสูงสุดด้วยตนเอง Speed limiter function
เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB) เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ Multi-Collision Brake (MCB) สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อมีการเบรกกะทันหัน Automatic hazard light activation upon heavy brake application
เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detection (BSD) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และตรวจจับขอบถนน Lane Departure Warning (LDW) with unmarked road edge detection ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Active Lane Keep Assist ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Advanced Driver Attention Alert (DAA3) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่และออกตัวอัตโนมัติ Distance Alert System เตือนสัญญาณจราจร Traffic sign recognition
ระบบเบรก Anti-lock Braking System (ABS) ช่วยเบรกยามฉุกเฉิน Emergency Braking Assistance (EBA) กระจายแรงเบรก Electronic Braking Distribution (EBD) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Programme (ESP) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Decent Control (HDC)
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และกล้องถอยจอดความคมชัดสูง 180 องศา กระจกมองข้างปรับมุมเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง Mirror indexing สัญญาณกะระยะการจอดด้านหน้าด้านหลัง ถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจจับสิ่งกีดขวาง close-obstacle detection และบริการเชื่อมต่อศูนย์บริการเป็นออปชันเสริม
โดยจำหน่ายสองรุ่นย่อยทั้งรุ่น Allure ราคา $39,990 หรือราว 969,000 บาท และ GT ราคา $44,490 หรือราว 1,079,000 บาท โดยเป็นราคาไม่รวมค่า on-road ของออสเตรเลีย ส่วนเมืองไทยลุ้นเผยหน้าใหม่ช่วงปลายปีนี้
ที่มา Carsales
