GAC AION พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและขายสำหรับ AION V เอสยูวีไซซ์ใหญ่เจเนอเรชันที่ 2 อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (23 กรกฎาคม)
AION V เจเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวที่จีนที่แรกของโลกที่จะเปิดตัวตามมาด้วยเมืองไทยในช่วงปลายปีนี้ในเวอร์ชันประกอบในประเทศ และเตรียมโกอินเตอร์ส่งขายต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ คูเวต ไนจีเรีย เม็กซิโก
ภายนอก Exterior
ออกแบบภายนอกที่ล้ำหน้ากว่าเจนก่อนเริ่มที่กระจังหน้าทรงทึบติดตรา AION พร้อมไฟหน้า LED โคมใหม่รูปตัวเอชพร้อมไฟ DRL แนวตั้งสองดวงในโคมเดียวกัน รับกับชุดกันชนหน้าดีไซน์เป็นหนึ่งเดียว มีกรอบแนวตั้งทรงตัวเจสองฝั่งและช่องระบายอากาศทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่เสริมคิ้วใต้กันชน
ด้านข้างทรงเท่ด้วยคิ้วขอบล้อทรงเข้ม กระจกมองข้างทรงสปูน เรียบเนียนด้วยที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเข้ากับตัวถังรถ คิ้วชายล่างขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถ ราวหลังคาเท่ พร้อมหลังคารถพาโนรามิกซันรูฟขนาด 2.14 ลูกบาศก์เมตร ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์เล่นระดับ เสริมกันชนท้ายพร้อมลิ้นสปอยเลอร์หลังในตัว และล้ออัลลอยขนาดใหญ่เลือกไดัตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R18 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R19
เอสยูวีคันนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ขนาดตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมโดยมีมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,605 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,854-1,876 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,660-1,686 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
ให้ความสบายจากชุดเบาะนั่งคู่ด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 จุด มีระบบนวดได้ถึง 8 จุด เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ถึง 137 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถหาตำแหน่งการนั่งที่เหมาะสมกับบุคลิกและสะดวกสบายมากที่สุดและยังพับเก็บได้แบบ 60/40 โดยมีพื้นที่มากถึง 987 ลิตรในกรณีพับเบาะและ 427 ลิตร กรณีไม่พับเบาะเพลิดเพลินกับการเดินทางด้วยลำโพงคุณภาพ Belgian Premium speakers ถึง 9 จุด พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมตู้เย็นแช่เครื่องดื่ม คอนโซลหน้าทรงหรูหุ้มหนังสัมผัสพร้อมจอกลาง 14.6 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ GAC’s ADiGO 5.0 และมาตรวัดดิจิทัลขนาดเล็ก 10.25 นิ้ว
สมรรถนะ Performance
รถคันนี้วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 750 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวหรือคู่ ขนาดความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนยังไม่มีการระบุโดยให้กำลังมากถึง 204 กับ 224 แรงม้า มาพร้อมระบบระบายความร้อน ITS2.0 เจเนอเรชันที่สองพัฒนาโดย AION
สามารถชาร์จไฟนานถึง 15 นาที และยังเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้อีก 370 กิโลเมตรนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ADiGO 5.0 ที่มี Ai ทำงานร่วมกับระบบประมวลด้วยชิป Orin-x กล้องรอบคัน 11 จุด คลื่นเรดาห์ และ LiDAR รวมถึง ฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดาย สายลุยเจนใหม่พร้อมขายจีนคาดว่าราคาจำหน่ายเริ่มที่ 149,800 YUAN หรือราว 749,000 บาท
ทางด้านเมืองไทยพบกันปลายปีนี้และเป็นรุ่นที่ 3 ต่อจาก AION Y Plus กับ AION ES ที่จะประกอบที่โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง บนพื้นที่ 85,000 ตารางเมตรลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท
มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศที่มีการใช้รถพวงมาลัยขวาทั่วโลกโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับชั้นนำของโลก และควบคุมคุณภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยี AI ที่ทรงพลัง การผลิตอัจฉริยะไร้คาร์บอนชั้นนำของโลก รวมถึงการเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานสะอาดจากประเทศจีน
ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานใหม่ Lighthouse Factory แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย World Economic Forum ที่ได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำอย่าง McKinsey & Company ในการคัดเลือกโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าเกณฑ์เทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ เป็นการตอกย้ำว่า GAC AION มุ่งมั่นเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาดให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งโรงงานจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส โดยเปิดเฟสแรกแล้วมีกำลังการผลิตสูงถึง 20,000 คันต่อปี