ค่ายรถยนต์พรีเมียมจากเมืองครูว์อย่าง Bentley นำเสนอยนตกรรมเน้นไปทางความหรู ลักชัวรี ในคันเดียวกันควบคู่กับความแรงที่สั่งสมมานานกว่า 100 ปี
ล่าสุดแนะนำอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่งแบบ 2 ประตูสุดเอกซ์คลูซีฟที่ทรงสมรรถนะที่สุดภายใต้ชื่อ Bentley Mulliner Batur ที่ทรงสมรรถนะที่สุดด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 รังสรรค์ขึ้นโดยผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Andreas Mindt และ ทีมงานของเขา ซึ่งถือเป็นดีเอ็นเอใหม่ของการออกแบบที่จะเป็นแนวทางในการพัฒนาการออกแบบอัครยนตรกรรมไฟฟ้า (BEV) ในอนาคตดีเอ็นเอการออกแบบขับเคลื่อนการรังสรรค์อัครยนตรกรรม Continental GT, Flying Spur และ Bentayga ได้พลิกโฉมการออกแบบ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ บาตูร์ ด้วยการนำเสนอรูปแบบ วิธีการ และ รายละเอียดใหม่ๆ สำหรับทฤษฎีใหม่แห่งการออกแบบได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับการออกแบบอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์ Beyond100 เพื่อการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมชั้นนำอย่างยั่งยืนของโลก
ภายนอกเริ่มต้นด้วยตัวเลือกเฉดสีที่หลากหลายจากเฉดสีมูลินเนอร์แบบเต็มรูปแบบ และ ตัวเลือกของเฉดสีสั่งทำพิเศษอย่างไม่จำกัด หรือ แม้กระทั่งกราฟิกที่วาดขึ้นด้วยมือชุดแต่ง สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง ถูกแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งรวมถึง คาร์บอนไฟเบอร์ และ วัสดุคอมโพสิต Natural Fibre แบบใหม่ที่ทนทานมาพร้อมล้อขนาด 22 นิ้วที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีตัวเลือกในแบบมาตรฐานในเฉดสีดำคริสตัลพื้นผิวโทนสว่างและขัดเงา สำหรับตัวเลือกเฉดสีเข้ม คือ การผสมผสานระหว่างหน้าปัดสีเข้มกับซี่ล้อเฉดสีเงินซาติน โดยลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีล้อให้เข้ากับเฉดสีตัวถังด้วยเทคนิคการเล่นสีตัดกันหรือไม่ก็ได้
ภายในแบบ 2 ที่นั่งได้รับการออกแบบในแบบเฉพาะตัวขั้นสุดและสำหรับการเดินทางระยะไกลแบบแกรนด์ทัวริ่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จจากการออกแบบและการตกแต่งภายในของอัครยนตรกรรมรุ่น บาคาลาร์ โดย บาตูร์ รังสรรค์ขึ้นจากองค์ประกอบหลักของการออกแบบห้องโดยสารของอัครยนตรกรรมรุ่น บาคาลาร์ และ เพิ่มคุณสมบัติด้านหรูหราที่ยั่งยืนเข้าไปทุกองค์ประกอบภายในห้องโดยสารได้รับการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า โดย ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุภายในที่ยั่งยืนได้อย่างหลากหลาย อาทิ หนังแท้ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำจากประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งสามารถหาได้ง่ายกว่าหนังที่มาจากนอกสหราชอาณาจักร หนังฟอกแบบยั่งยืนจากประเทศอิตาลีที่มีให้เลือกสรรกว่า 5 เฉดสี Dinamica วัสดุทดแทนหนังแท้ ลักษณะคล้ายหนังกลับนอกเหนือจากแผงไม้วีเนียร์บริเวณคอลโซล แผงหน้าปัดด้านผู้โดยสารยังรังสรรค์ด้วยการสลักลายเส้นเสียงของเครื่องยนต์รุ่น W12 อันเป็นเอกลักษณ์ และ ยังสามารถเลือกการแกะสลักในแบบเฉพาะตัวได้อีกด้วย อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ยั่งยืน คือ พรมภายในห้องโดยสาร ซึ่งเข้าคู่กับหนังและการทำจากเส้นด้ายรีไซเคิล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกลูกค้าสามารถเลือกระหว่างการคุมโทนสีสว่างหรือโทนสีเข้มให้เข้ากับชุดแต่งโทนสว่างภายในและตัวเลือกแบบไทเทเนียม โดยปุ่มควบคุมระบบแอร์สามารถเลือกตกแต่งด้วยทองคำ 18K พิมพ์ 3 มิติเครื่องยนต์ W12 อันทรงพลังที่ยังคงใช้กับอัครยนตรกรรม Bentley ด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่น W12 6.0 ลิตรที่เปิดตัวมาพร้อม ผ่านการพัฒนาอย่างเข้มข้นสู่การเป็นเครื่องยนต์ที่ล้ำสมัยที่สุดของโลก ซึ่งผลิตขึ้นด้วยมือ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ แถมอัปเกรดเทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ที่มอบพละกำลังมากกว่า 740 แรงม้า แรงบิดกว่า 1,000 นิวตันเมตร ให้ประสิทธิภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม
ขุมพลัง W12 นี้ปรับปรุงให้ผลิตพละกำลังเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในขณะที่ยังมอบประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นกว่า 25% มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด และ ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเพื่อให้เสียงท่อที่เข้ากับสมรรถนะ โดยโครงสร้างท่อไอเสียทั้งหมดผลิตจากไททาเนียม พิมพ์ตกแต่งแบบ 3 มิติ เป็นครั้งแรกโดยสมรรถนะของเครื่องยนต์จะถูกทำให้เข้ากับแชสซีส์ด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ปรับความเร็วรอบ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอ็คทีฟควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า เทคโนโลยี eLSD ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ และ เวกเตอร์แรงบิด
Bentley Mulliner Batur เป็น DNA แห่งการออกแบบใหม่ตอกย้ำทิศทางการเปลี่ยนผ่านสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ มีเพียง 18 คันทั่วโลกและถูกจับจองเป็นที่เรียบร้อยโดยสนนราคาไว้ที่ 1.65 ล้านปอนด์ (ไม่รวมภาษีและออปชัน) โดยเริ่มส่งมอบตั้งแต่ปี 2023 และ 1 ใน 18 คันนี้จะมีคนไทยเป็นเจ้าของหรือไม่ต้องติดตาม