ก็ต้องยอมรับเลยว่ายุคนี้เป็นยุคของรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆเพราะนอกจากที่จะให้พลังสะอาดแล้วแถมยังลดมลพิษทางอากาศเป็นศูนย์
จึงทำให้ค่ายรถยนต์หลายค่ายเบนเข็มหันมาทำรถยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก รวมถึงค่ายรถยนต์ที่ถนัดทำเรื่องนี้มาเป็นทุนเดิมอย่าง TESLA และแบรนด์อื่นๆจากเมืองจีน รวมถึงนโยบายจากแต่ละประเทศที่สั่งห้ามขายรถเครื่องสันดาปและส่งเสริมให้คนหันมาใช้นั้น ทำให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือ ซีอีโอ ค่าย BMW มองว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจเร็วเกินไป
นาย Oliver Zipse ซีอีโอ BMW ได้กล่าวในงานอีเวนต์งานหนึ่งที่ นิวยอร์ก โดยมีสำนักข่าว Reuters ร่วมฟังด้วยว่าไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนมาผลิตและขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบโดยทิ้งตลาดรถยนต์เครื่องสันดาป เพราะถ้าจะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเรายังต้องพึ่งพาบางประเทศที่เปลี่ยนผ่านไม่เต็มร้อย ถ้าลูกค้าไม่สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วยเหตุผลบางประการ แต่เขายังอยากได้รถใหม่ คุณยังจะให้พวกเขาขับรถเก่าบุโรทั่งต่อไปหรือ และถ้าคุณตัดสินใจไม่ขายรถยนต์เครื่องสันดาป คู่แข่งคุณก็จะขายต่อไป เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
แต่ลูกค้าอีกส่วนที่มีศักยภาพสามารถซื้อได้แต่ดันมาติดที่บ้านหรือคอนโดที่เขาอาศัยนั้นไม่สามารถติดตั้งที่ชาร์จได้และผนวกกับโครงสร้างพื้นฐานทั้งที่ชาร์จ ผู้ผลิตแบต ร้านบริการซ่อมเปลี่ยนแบตรถ ฯลฯ ยังไม่เพียงพอและทั่วถึง ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนผ่านมาเป็นยุครถยนต์ไฟฟ้าได้
นอกจากนี้ทาง ซีอีโอยังกล่าวเสริมว่า การผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปคือทางออกทั้งในมุมของสิ่งแวดล้อมและผลกำไร ที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เนื่องจากหลายประเทศยังมีโครงสร้างพื้นฐานในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีความชัดเจน เหลื่อมล้ำ และราคารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละประเทศที่จำหน่ายก็ยังสูง ดังนั้นทาง ซีอีโอ ที่ออกมาพูดต้องการชี้ให้เห็นว่าทุกประเทศไม่สามารถหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ทันทีทันใดต้องค่อยพัฒนาค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ที่มา Carscoops