หลังเปิดตัวให้ทั่วโลกได้จับจองกันแต่ว่ามีเพียง 1,000 คันสำหรับ BMW M4 CSL และรุ่นนี้ก็ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูล M สำหรับ BMW M4 CSL นำพื้นฐานของรุ่น M4 Competition Coupe รหัส G82 มาปรับตัวตนให้โหดขึ้น ภายนอก ปรับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานใหม่โดยเน้นช่องดักอากาศและชุดสเกิร์ตใหม่รอบคันทั้งสเกิร์ตหน้าใต้กันชนดีไซน์ใหม่และสเกิร์ตหลังใหม่พร้อมลิ้นสปอยเลอร์ฝังท่อคู่สองฝั่งทำมาจากไทเทเนียมน้ำหนักลงจากเดิม 4 กก. โดยทั้งสเกิร์ตหน้าและหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยชุดสเกิร์ตตกแต่งด้วยขลิบแดง นอกจากนี้ยังออกแบบฝากระโปรงท้ายใหม่มีสปอยเลอร์หลังทรงตูดเป็ดที่รวมเข้ากับฝากระโปรงท้ายอย่างลงตัว พร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ตัดกับช่องระบายอากาศรูปตัว Y แนวนอน ขลิบสีแดง ไฟหน้า Adaptive LED แบบ BMW Laserlight สีเหลืองแทนสีขาวเมื่อปลดล็อกประตูและเมื่อเปิดไฟต่ำและไฟสูง ฝากระโปรงหน้าออกแบบพิเศษขอบสีแดง หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมครีบ สีดำขลิบแดง บ่งบอกความโหดระดับพระกาฬ บนพื้นฐานเดิมทั้ง ช่องระบายอากาศด้านข้างสไตล์ M ฝาครอบกระจกข้าง กาบข้างทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ลาย Star spoke ขนาด 19 นิ้วในล้อหน้าพร้อมยาง UltraTrack 275/35 R19 และ 20 นิ้วในล้อหลัง พร้อมยาง UltraTrack 285/30 R20 และไฟท้ายแบบ LED โดดเด่นด้วยเส้นแสงที่วิจิตรบรรจงจากเทคโนโลยีเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ตัวรถน้ำหนักเบาลงถึง 1,700 กก. (เดิม 1,725 กก.)
ภายในพิเศษด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน M หุ้มหนัง Alcantara พร้อมเบาะนั่ง Full Bucket Seat M Carbon ออกแบบใหม่ทำจากคาร์บอนแข็งหุ้มหนัง Merino สีดำ กับหนัง Alcantara สีแดง มุมพนักพิงสามารถปรับได้ด้วยตนเอง ในขณะที่ความสูงของเบาะนั่งต้องปรับด้วยข้อต่อแบบสกรูเท่านั้น คอนโซลหน้าตกแต่งโดยมีจอสัมผัสแบบเดิม 10.25 นิ้ว มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว พร้อมจอ Head Up Display เพดานหลังคาสี Anthracite แถบตกแต่งภายในวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและตราสัญลักษณ์ CSL ที่เบาะนั่ง วัสดุปูพรมน้ำหนักเบา จุดที่หายไปนั่นคือเบาะนั่งตอนหลังกลายเป็นที่วางของพร้อมตาข่ายและหลุมสำหรับวางของแทนที่รองนั่งไว้วางหมวกกันน็อกได้ คอนโซลกลางมีปุ่ม M Mode มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใช้สำหรับตั้งค่าการตอบสนองและรูปแบบของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ
ขุมพลังยังคงเป็นเบนซินเทอร์โบ M TwinPower Turbo 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส S58B30T0 มอบพลังโหดขยับแรงม้าไปถึง 551 แรงม้า 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงถึง 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750 – 5,950 รอบต่อนาที ปรับบูสท์เพิ่มขึ้นจากเดิม 24.7 ปอนด์ เป็น 30.5 ปอนด์ 0-100 กม./ชม.ได้ 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 307 กม./ชม. คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ M Steptronic Sport จาก ZF พร้อม Drivelogic ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ไม่เกิดการสูญเสียกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมผ่านคันเกียร์ M หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย ขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมเฟืองท้าย M Diff
มอบส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความคล่องตัว และความแม่นยำของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงสายพันธุ์ M ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบช่วงล่าง Adaptive M พร้อมโช้กอัพควบคุมระบบไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ เบรกคาร์บอนเซรามิกน้ำหนักเบา M Carbon พร้อมคาลิเปอร์สีแดงสด 4ล้อ ที่คาลิเปอร์หน้า 6 Pot ขนาด 15.7 นิ้ว และคาลิปเปอร์หลัง 1 Pot ขนาด 15 นิ้ว ระบบเบรกที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น M มอบความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ด้วยความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมขณะควบคุมเบรกในทุกสถานการณ์ แกนฝาสูบผลิตด้วยเทคนิคการพิมพ์ 3 มิติ ตอกย้ำความโดดเด่นด้านนวัตกรรมของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูล M
มาพร้อมออปชันมาตรฐาน M Drive Professional ที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเสริมสัมผัสที่เร้าใจยิ่งขึ้นขณะขับขี่ในสนามแข่ง รวมถึงฟังก์ชัน M Drift Analyser ที่สามารถบันทึกและวิเคราะห์คะแนนความแม่นยำในการเข้าโค้งของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ M Laptimer ช่วยบอกเวลาการขับขี่ต่อรอบ รวมถึงข้อมูลการขับขี่อื่น ๆ ในสนามแข่ง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ M Traction Control ที่ปรับระดับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีได้ถึง 10 ระดับตามความต้องการของผู้ขับขี่ก่อนสั่งการให้ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ทำงาน
BMW M4 CSL ทั่วโลกมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน แต่สำหรับเมืองไทยได้โควตาเพียง 4 คัน ในราคา 17,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็กเกจบำรุงรักษา BSI Standard)