More

    รีวิว! BMW X3 xDrive 20d M Sport หล่อใหม่เอสยูวีดีเซล หรู แรง ประหยัด

    กว่า 20 ปีที่ BMW โลดแล่นในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์หรือเอสยูวีได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนพันธุ์แท้และลูกค้าใหม่ที่สัมผัสเป็นครั้งแรก

    BMW

    จาก BMW X5 รุ่นปฐมฤกษ์เจาะตลาดจนประสบความสำเร็จตามมาด้วยเอสยูวีพี่รองคลอดตามกันมาเป็นลำดับที่สองกับ BMW X3 และยังมีรุ่นอื่นๆตามมา BMW X1, BMW X2, BMW X4, BMW X6 และ BMW X7 พี่ใหญ่เอสยูวีของค่าย สำหรับ BMW X3 ที่จำหน่ายนั้นเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ทำตลาดในไทยเมื่อปี 2017 และ ปรับโฉมหรือ Facelift (LCI = life cycle impulse) เมื่อปลายปี 2021 ปัจจุบันจำหน่ายสามรุ่นทั้งรุ่นเสียบปลั๊ก X3 xDrive 30e M Sport ,รุ่น iX3 ไฟฟ้าล้วน และรุ่นที่นำมารีวิวนั่นคือ X3 xDrive 20d M Sport เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ประกอบในประเทศ

    Design & Exterior

    BMW

    การปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปี รหัส G01 ปรับหน้าตาคล้ายกับ BMW iX3 เอสยูวีไฟฟ้าที่กำลังขายดีในไทย ความหล่อครั้งใหม่สื่อถึงพละกำลังที่แข็งแกร่ง ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้าและท้ายตัวรถ กับกระจังหน้าทรงไตคู่ใหญ่กว่าเดิม ด้วยกรอบกระจังแบบชิ้นเดียวแบบสีดำเงา กันชนหน้าทรงสปอร์ตใหม่ที่ครั้งนี้ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า LED รวมถึงช่องระบายอากาศออกแบบใหม่แบบสีดำเงา สไตล์ M Aerodynamics กลับมาอีกครั้งกับไฟหน้าปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัยหรือ Adaptive LED ซ่อนไฟ Daytime LED รูปตัว C  ในโคมเดียวกันครั้งนี้มาในแบบรมดำ มิติของไฟหน้าที่ราบลงประมาณ 10 มิลลิเมตร และยังปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติหรือ Auto High Beam ด้านข้างเอกลักษณ์เดิมด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ไม่ว่าจะเป็นขอบหน้าต่างสีดำเงา ราวหลังคาสีดำเงา กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวที่สามารถปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า สเกิร์ตข้างออกแบบล้ำสปอร์ตแถมยังมีไฟส่องพื้นสว่างๆในยามค่ำคืนอีกด้วย ล้ออัลลอยแบบ M ลาย Double-spoke จากเดิมขนาด 19 นิ้ว 7.5JX19 พร้อมยาง 245/50 R19 มาครั้งนี้เพิ่มขนาดมาเป็น 20 นิ้ว ยางติดรถ ยางหน้ากับยางหลังคนละแบบกัน โดยยางหน้ามาในแบบ245/45 R20 และยางหลัง 275/40 R20 เป็นยาง Runflat จาก Bridgestone Alenza

    BMW

    ด้านท้ายใหม่อารมณ์สปอร์ตเดียวกับ BMW iX3 โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยขอบสีดำล้อมรอบส่งให้ไฟท้าย LED สะดุดตา มาในทรงสามมิติที่บางขึ้น และไฟเลี้ยวแนวนอนในลายเส้นแบบ Filigree กับกันชนหลังใหม่ดีไซน์เฉพาะพร้อมลิ้นเสริมกันชนหลังหรือ Diffuser พร้อมท่อไอเสียทรงเหลี่ยม สองฝั่งเพิ่มความสปอร์ต  สำหรับคุณสุภาพสตรีที่ชอบการ Sale ลดแหลกเป็นอาจิณ ยังมี ฝากท้าย เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าด้วยระบบ Comfort access แค่แกว่งปลายเท้าไปที่ใต้กันชนหลังเซนเซอร์คอยจับสัญญาณการแหย่เท้าไว้ เพียงแต่ว่าขอให้ตัวกุญแจรีโมทอยู่กับตัว ฝากระโปรงท้ายจะเปิดด้วยระบบไฟฟ้าทันที

    BMW

    ถึงจะปรับโฉมแต่มิติตัวรถยังคงเดิมกับความยาว 4,708 มม. ความกว้าง 1,891มม. ความสูง 1,676 มม. ระยะฐานล้อ 2,864 มม. น้ำหนักรถ 1,750 กก. ความสูงจากใต้ท้องรถ 204 มม. และความจุถังน้ำมัน 68 ลิตร ส่วนตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม CLAR platform ที่เป็นการผสมทั้งอลูมีเนียม แมกนีเซียม คาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อให้ตัวถังน้ำหนักลดลง

    Interior & Convenience

    BMW

    ภายในยังมีกลิ่นอายความเป็น BMW หยิบยืมฟังก์ชันการใช้งานจากรุ่นอื่นๆมาประจำการในเอสยูวีหรูคันนี้ คอนโซลหน้าดีไซน์เดิมแต่มีการปรับปรุงใหม่ดีไซน์ใหม่และหุ้มหนังสัมผัส Sensatec ตกแต่งแบบอะลูมิเนียมลายดำเข้ม Rhombicle Dark พร้อมแถบโครเมียมสีเงินที่ช่องแอร์ซ้าย-ขวา และกรอบแอร์ตรงคอนโซลกลาง มาตรวัดสี Control Display 12.3 นิ้ว อ่านง่ายกว่ามาตรวัดเดิมพร้อมจอกราฟิกแบ่งสีตามโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด ภายในจอมาตรวัดแสดงแผนที่ ข้อมูลตัวรถ ฯลฯ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงเดิมหุ้มหนังแบบ M Sport พร้อมแป้นเหนี่ยวไก Paddle Shift หลังพวงมาลัยโดยปุ่มมัลติฟังก์ชันมีการออกแบบใหม่ ทั้งปุ่ม Cruise Control ซ้ายมือและขวามือปุ่มปรับการทำงานของมาตรวัดและคำสั่งเสียง คอนโซลกลางออกแบบใหม่ สไตล์ BMW 3 Series G20 ด้วยจอสัมผัสทัชสกรีนขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แบบลอยตัวเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ตโฟนได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านแอป Apple CarPlay ควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการล่าสุด BMW Operating System 7.0 เทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive ระบบการสั่งการด้วยเสียงพร้อม BMW Gesture Control ด้วยการเคลื่อนไหวผ่านนิ้วมือ โดยไม่ต้องมีการสัมผัสแต่อย่างใด ที่ครั้งนี้ทำงานฉับไวขึ้น กับลำโพง HiFi loudspeaker รอบคันถึงจะด้อยกว่าตอนเป็น Harman Kardon แต่คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์รับได้ ช่องแอร์ขอบสีเงินแนวนอน พร้อมปุ่มการทำงานของเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ทั้งซ้าย-ขวาด้านหน้าและด้านหลัง ให้ความเย็นสบายตลอดการเดินทาง พร้อมปุ่มการทำงานเครื่องเสียง คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่จับกระชับด้วยก้านเกียร์ที่เล็กลงสีดำเงา ออกแบบสิ่งต่างๆรอบๆคอนโซลเกียร์ใหม่หมดด้วยปุ่มระบบ iDrive ขนาดใหญ่ขึ้นตกแต่งปุ่มต่างๆแบบสีดำด้านและสีเงินและยังย้ายปุ่ม Push Start มาที่ตรงคอนโซลเกียร์ ปุ่มโหมดการทำงาน 4 โหมดทั้ง Comfort, ECO, PRO และ Sport เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ปุ่มปิดการทำงานเซนเซอร์จอดและปิดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราว ที่ท้าวแขนหุ้มหนังสีดำเดินด้ายสีฟ้า วางแขนสบายๆไม่เมื่อยล้า แถมยังมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้าหรือที่เรียกว่า BMW Head-Up Display ติดมาให้ตั้งแต่รุ่นก่อนปรับโฉมประกอบไทย Pre-LCI

    BMW

    เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุหนัง ‘Vernasca’ โดยสีของเบาะนั้นเป็นแบบสีดำอ่อนแถมเดินด้ายสีฟ้ากับตราโลโก้ BMW M สามสีทั้งแดง น้ำเงิน ฟ้า แบบ Black/contrast stitching blue (BK) กับสีภายนอกรถแบบสีน้ำเงินเข้ม Phytonic Blue และสีภายนอกอื่นๆกับสีภายในเบาะจะต่างกัน ส่วนดีไซน์ของเบาะนั่งยังคงเดิมแนวสปอร์ตโอบกระชับได้ดี ขับขี่ได้สบายพอดีตัว หมอนรองศีรษะค่อนข้างดันหัวไปนิด แต่ก็ไม่อึดอัด เบาะหลังตอนสองสบายนั่งแล้วยังมีพื้นที่ช่วงขาเหลือ ส่วนหมอนรองศีรษะด้านหลังปรับระดับองศาได้เล็กน้อย เบาะไม่ชันเกินไปและยังพับเก็บได้แบบ 40:20:40 ทำให้พื้นที่สัมภาระท้ายมีขนาดตั้งแต่ 550-1,600 ลิตร ขนของกันอย่างจุใจเลยทีเดียวและยังมีม่านปิดสัมภาระท้ายให้ มีไฟเพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 6 สี Ambient Light เลือกสีตามต้องการสร้างความอบอุ่นยามขับรถตอนกลางคืน ม่านบังแดดประตูคู่หลัง สำหรับตอนสอง กันแสงแดดได้อย่างเต็มรูปแบบ หลังคากระจกแบบพาโนรามาซันรูฟบานใหญ่เลื่อนเปิด-ปิด หรือ ยกขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า สคัพเพลตโลโก้ M บ่งบอกความเท่ แต่กุญแจรีโมทเปลี่ยนมาเป็นธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่แบบกุญแจรีโมทหน้าจอสัมผัส Digital Key ที่เคยสั่งการทำงานเครื่องปรับอากาศ แสดงสถานะต่างๆ ของรถ

    Engine & Transmission

    BMW

    ขุมพลังยอดนิยมเรียกว่าเป็นขุมพลังสหกรณ์ที่ใช้มาหลายรุ่นของ BMW รวมถึงมาประจำการในเอสยูวีคันนี้กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ TwinPower Turbo 4 สูบ 2.0 ลิตร B47D20B 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ X ช่วงชัก 84.0 X 90.0 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 :1 ปล่อย CO2 ที่ 143 กรัมต่อกิโลเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic พร้อม Gearshift Paddles และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive

    BMW

    ถึงหน้าตาจะปรับเปลี่ยนไปทั้งภายนอกและภายในแต่ขุมพลังการขับขี่ยังให้ความสนุกสนานเช่นเดิม กดเป็นมาๆ ให้ความว่องไวในการเร่งแซง พาตัวรถเกือบ 2 ตันพุ่งทะยานอย่างสะใจ  ส่วนรอบเครื่องยนต์ในแต่ละช่วงความเร็ว 90-120 กม./ชม. ทำผลงานไม่เกิน 1,900 รอบ/นาที ตั้งแต่ 1,300 1,500 1,600 และ 1,750 รอบ/นาที ตามลำดับ ส่วนการจับอัตราเร่ง Performance Test จากจุดหยุดนิ่งไปแตะถึง 100 กม./ชม. ทำได้ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนปรับโฉมเพียง 9.32 วินาที ส่วน การเร่งแซง 80-120 กม./ชม. ทำได้ 6.82 วินาที

    BMW

    เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ไม่ต้องพูดถึงอะไรมากกับเกียร์ลูกนี้ ที่ทำงานราบรื่นไม่ขาดตอน ตัดต่อกกำลังอย่างดีแถมมี Paddle Shift หลังพวงมาลัยเหนี่ยวไกอย่างสนุกสนานอารมณ์เดียวกับขับรถสปอร์ตคูเป้ เท่านั้นยังไม่พอยังมีโหมดการทำงานของการขับขี่ 4 โหมด Comfort, ECO, PRO และ Sport ที่สามารถเลือกได้ตามใจชอบ โดยโหมด PRO และ Sport แนน่อนว่ามันกระชากวิญญาณพอสมควรแต่ ถ้าขับทั่วไป Daily Use ก็เลือก Comfort กับ ECO ก็พอ แถมมีฟังก์ชันสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ชั่วคราวอัจฉริยะ Auto Start Stop โดยจะดับเครื่องยนต์เฉพาะเมื่อรถหยุดการเคลื่อนที่ตามช่วงระยะเวลา โดยดับยาวสุด 3 นาที แต่ช่วงการทำงานนั้น บรรดาเครื่องปรับอากาศกับเครื่องเสียงยังทำงานปกติ

    ด้านความประหยัดน้ำมันกับสูตรเฉพาะ Save Mode ที่ทำได้  13.86 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 60.7 กม.จัดน้ำมันดีเซล B7 เต็มถังจากปั๊มแห่งหนึ่ง ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ 4.38 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง อัตราสิ้นเปลืองในเมือง 10.20 กม./ลิตร และนอกเมือง 12.47 กม./ลิตร นั่นเอง

    Handling & Ride

    BMW

    เอสยูวีที่พัฒนามาจาก BMW 3 Series ใช้ช่วงล่างระดับเทพทั้งด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบ อิสระมัลติลิงค์ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง มาพร้อมกับช่วงล่างที่พัฒนาแบบ M Sport ที่เซตมาเน้นการขับขี่ที่เร้าใจเช่นเดิมถึงให้การเกาะหนึบแต่ก็แอบแข็งหน่อยๆ การเก็บเสียงเงียบสอบผ่านด้วยการเก็บเสียงที่เงียบจริง ถึงเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขึ้นขึ้นว่าดังนั้นก็เก็บเสียงเครื่องอย่างเนียนไม่กระตุกกระชากวิญญาณ แม้แต่ช่วงความเร็วปกติ หรือความเร็วสูง  พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ไม่ว่าจะเส้นทางจะเป็นแบบไหนเชื่อใจได้ในเรื่องการเกาะถนนแม่นยำขึ้นฉับไวด้วยการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลัง  ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็ว แบบ Servotronic เซตพวงมาลัยแม่นยำ ควบคุมง่าย หักเลี้ยวไม่ต้องใช้แรงมาก น้ำหนักเบาในช่วงขับขี่ในเมืองและจะหนักขึ้นในความเร็วสูงๆส่วนระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ น้ำหนักในการกดแป้นเบรกน้อยลง ระยะเบรกสั้นลง กระชับขึ้นเช่นเดิมเหมือนกับรุ่น X3 ก่อนปรับโฉม

    Safety & Feature

    BMW

    เอสยูวีค่าตัวสามล้านกลางๆให้ออปชันความปลอดภัยเกือบจะครบตั้งแต่ระบบควบคุมการทรงตัว (DSC) ควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ควบคุมความเร็วขณะขึ้นทางลาดชัน Hill-Start Assisant ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) เตือนสถานะของยาง (Runflat Indicator) ระบบป้องกันคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ปุ่มโทรออกฉุุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) รวมถึง ควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง (Performance Control) ช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ควบคุมการจอดรถทั้งหน้า-หลังและกล้องมองหลังที่ให้ความชัดเจนในการมองแถมปรับมุมมองด้านหลังได้ แต่เสียดายว่าน่าจะมีกล้องรอบคันติดมากับรถก็จะดี

    Verdict

    BMWBMW

    เอสยูวีลำดับที่สองของค่าย BMW ที่ให้อารมณ์ให้ความหล่อแบบเดียวกับรถไฟฟ้า BMW iX3 สปอร์ตในแนวรมดำ ถึงแม้ไม่มีกล้องมองภาพรอบคัน กับ ลำโพงไฮเอนด์ แต่ออปชันข้าวของให้มาอย่างจุใจไม่แพ้กันกับรุ่น X3 xDrive 30e M Sport แต่ขับขี่สนุกกับพลังดีเซล 190 ม้า ที่พุ่งทะยานได้ดั่งใจแถมความประหยัดที่เป็นหนึ่ง พ่วงระบบขับสี่ x Drive ที่มีไม่กี่เจ้าที่ให้มา กับราคา 3,699,000 บาท เป็นราคารวมโปรแกรม BSI Standard แล้วก็นับว่าน่าสนใจน่าครอบครองสำหรับ BMW X3 xDrive 20d M Sport รุ่นปรับโฉม

    ขอขอบคุณ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ BMW X3 xDrive 20d M Sport รุ่นปรับโฉมมารีวิวครั้งนี้

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts