หลังจากเปิดขายและรับจองอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทำให้มหาชนชาวไทยสนใจ BYD ATTO 3 กันเป็นจำนวนมาก
จนมียอดจองเป็นประวัติการณ์ทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ เกินคาดด้วยตัวเลข 2,507 คัน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ปลุกกระแสยานยนต์ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและจะทยอยส่งมอบจนครบ 5,000 คันภายในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชาวไทยทาง BYD โดย Rêver Automotive ตัวแทนขายอย่างเป็นทางการ พร้อมเสริมทัพเพิ่มรุ่น Standard Range หรือรุ่นเริ่มต้น ออกจำหน่าย รูปร่างหน้าตาคล้ายกับรุ่นท็อปสุด Extended Range ตั้งแต่ กระจังหน้าแบบปิดทึบขอบกระจังหน้าห่อหุ้มด้วยเส้นโครเมียม คาดไฟหน้าแบบ LED มาพร้อมระบบไฟส่องนําทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) แถมยังปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HMA) และมีไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light (DRL) ในโคมเดียวกันในชุดกันชนหน้าทูโทนสีพร้อมสีดำในรูปแบบช่องระบายอากาศ ด้านข้างตกแต่งด้วยกรอบกระจกโครเมียม เสา C ขนาดใหญ่ขึ้นรูปลายคลื่นน้ำสีเงิน ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ปีกนก ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/55R18
สร้างจากพื้นฐาน BYD’s e-platform 3.0 ด้วยมิติตัวรถเกือบเท่ากับรุ่นท็อป Extended Range ตั้งแต่ความยาว 4,455 มม. ความกว้าง 1,875 มม. ความสูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 175 มม. แต่น้ำหนักรถลดลงจากเดิม 70 กก. เหลือ 1,680 กก.
ภายในหรูหราด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว หมุนจอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto พร้อมลำโพง Dirac HD Sound 8 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เชื่อมต่ออัจฉริยะ BYD DiLink มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว แสดงผลการขับขี่ และเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมพื้นที่สัมภาระมากถึง 1,340 ลิตรเมื่อพับเบาะลงและ 440 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ เบาะไฟฟ้าคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมความสะดวกสบายทั้งช่องจ่ายไฟ 12V 120w 1 จุด ที่คอนโซลกลาง กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Start กระจกไฟฟ้า 4 บานแบบ One-touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-Pinch ระบบเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter และไฟ Ambient Light บริเวณมือจับประตู ปรับสีได้ 31 สี กะพริบตามจังหวะเพลง มีช่องเสียบ USB ทั้ง ช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 พอร์ต ที่คอนโซลกลาง และช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 พอร์ต สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สำหรับรุ่นเริ่มต้น Standard Range ยังให้กำลังแรงม้าเท่าเดิมคือ 201 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ Permanent magnet synchronous motor ด้วยความจุแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ที่ลดลงมาเหลือ 49.92 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 410 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที พร้อมระบบชาร์จเร็ว DC – CCS 2 (รองรับการชาร์จสูงสุด 70kW) และชาร์จแบบ AC Type 2 รองรับหัวชาร์จ แบบ AC 3 ขา พร้อมระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้ 2.2 kW และดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative braking) มั่นใจด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อ
ระบบความปลอดภัยมาครบทั้ง ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (ACC-S&G), ช่วยเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB), เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW), เตือนการชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW), เตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD), เตือนก่อนเปิดประตู Door Open Warning (DOW), เตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA), เตือนขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Brake (RCTB)
BYD ATTO 3 รุ่น Standard Range จ่อขายไทย 11 พฤศจิกายน คาดค่าตัวหลังลดภาษีถูกลงกว่ารุ่นท็อปหนึ่งแสนบาท เพียง 1,099,900 บาท ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้นติดตามกันในวันเปิดตัว