BYD เปิดตัวเทคโนโลยี DM เจเนอเรชั่นที่ 5 และเปิดตัวรถยนต์ 2 คันแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ คือ BYD Qin L DM-i และ BYD Seal 06 DM-i
ในงานแถลงข่าว ข้อมูลสำคัญของ BYD คือการประสบความสำเร็จ เป็น 1 ใน 3 อันดับเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ได้แก่ ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์สูงสุด (46.06%) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำสุด 2.9 ลิตร/100 กม. และระยะครอบคลุมที่ยาวที่สุด ถึง 2,100 กม.
BYD เปิดตัว เทคโนโลยี DM เจนฯ 5 เป็นการพัฒนาจาก DM เจนฯ 4 โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน PHEV ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถส่งกำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ แรงบิด 126 นิวตันเมตร ด้วยการปรับปรุงเทคโนโลยี ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนถึง 46.06% ซึ่ง BYD กล่าวว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก
ระบบใช้ชุดแบตเตอรี่ 10.08 หรือ 15.87 kWh ซึ่งแน่นอนว่าประกอบด้วยแบตเตอรี่ Blade ของ BYD ทางด้านองค์ประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า EHS120 ที่มีกำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิด 210 นิวตันเมตร หรือมอเตอร์ EHS160 ที่มีกำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ และแรงบิด 260 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต 12 โวลต์ยังใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ซึ่งมีอายุการใช้งานเท่ากับรถยนต์ ระบบไฮบริดไฟฟ้า (EHS) มีประสิทธิภาพ 92% ภายใต้สภาวะการทำงานที่ครอบคลุม ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% และความหนาแน่นของพลังงาน 75.47 กิโลวัตต์/ลิตร เพิ่มขึ้น 15.5%
นอกจากนี้ ความหนาแน่นพลังงานของแบตเตอรี่ Blade สำหรับ PHEV อยู่ที่ 115 Wh/kg ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.5% อัตราการไหลออกอยู่ที่ 16C ซึ่งเพิ่มขึ้น 33% ในขณะที่อัตราการไหลกลับเพิ่มขึ้น 20.3% เป็น 5C BYD ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยและความสม่ำเสมอของอุณหภูมิอีกด้วย
สำหรับการชาร์จแบบ AC ได้รับการอัปเกรดจาก 3.3 กิโลวัตต์ เป็น 6.6 กิโลวัตต์ ทำให้เวลาในการชาร์จลดลง 60% ด้านการชาร์จ DC จาก 30-80% ตอนนี้ใช้เวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ การใช้การจ่ายไฟภายนอก อย่าง V2L สามารถรองรับได้ถึง 6 kW แทนที่จะเป็น 3.3 kW เหมือนก่อนหน้านี้
Sources: Carnewschina
