จะเรียกว่าเป็นการเซอร์ไพรส์แฟนๆค่าย BYD ก็เป็นได้ในขณะที่กำลังเตรียมความพร้อมเปิดตัวรถอีวีลำดับที่สี่ของค่าย DENZA อย่าง DENZA Z9 GT ไม่ทันไร
ล่าสุด DENZA เตรียมมีเวอร์ชันใหม่ของตระกูล Z9 ออกมากับ DENZA Z9 Sedan โดยคาดว่าจะเตรียมเปิดตัวที่เมืองจีนปลายปีนี้หลังการเปิดตัวเวอร์ชัน Shooting Brake
ภายนอก Exterior
ไม่ต่างจากรุ่น Shooting Brake เหมือนกันตั้งแต่ไซน์กันชนหน้าออกแบบมุมซ้าย-ขวาเป็นรูปแนวนอนคาดว่าฝังไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED เน้นความทึบมากขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศออกแบบให้ใหญ่ขึ้น ติดตรา DENZA ไว้ประกบกับ ไฟหน้า LED สามดวง เติมความโหดขึ้นอีกขั้นและเซนเซอร์ LiDAR ที่กันชนหน้า ด้านข้างสปอร์ตล้ำกับกระจกล้อมกรอบสีดำ ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถด้านท้ายมาในแนวซีดานมีความพรีเมียมออกแบบหลังคารถลาดลงและเรียบเนียนขึ้นอีกระดับ ไฟท้าย LED แนวยาวครอบเส้นโครเมียมแนวนอน พร้อมตราตัวอักษร ขนาดใหญ่รับกับกันชนท้ายชิ้นใหญ่เสริมลิ้นกันชนหลังสีเงินให้ตัวรถดูดีขึ้น สปอยเลอร์หลังแบบปีกเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า electric rear wing เสริมเด่นกับล้ออัลลอยตั้งแต่ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 และขนาด 21 นิ้ว ที่มียางหลายขนาดตั้งแต่ 255/40R21 และขนาดใหญ่สุด 275/40R21 ตัวรถอาจมีการปรับเปลี่ยนมิติเล็กน้อยตั้งแต่
- ความยาว 5,180 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,990 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,480-1,500 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,875 กิโลกรัม
ภายใน Interior
ภายในสมสง่าลักชัวรีเทียบชั้นรถยุโรปในแบบ Denza 2.0 cockpit designสวยสง่าและลักชัวรีกับแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ติดตั้งระบบจอด้วยกันถึง 4 จอประกอบด้วยชุดมาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสเชื่อมต่อระบบความบันเทิงขนาดใหญ่แบบลอยตัว 17.3 นิ้ว มีจอสำหรับฝั่งผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้าหรือ HUD พร้อมจอแสดงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านปาดล่างแบบ flat-bottomed คอนโซลกลางมีหัวคันเกียร์ไฟฟ้าเป็นคริสตัล ติดตั้งที่ชาร์จสมาร์ตโฟนชาร์จจุใจถึง 2 เครื่อง กำลังชาร์จ 50 W เครื่องเสียงจาก Devialet คาดลำโพง 16 จุดรวมในชุดคอนโซลหน้า ร่วมสร้างความบันเทิงและประสบการณ์ที่น่าจดจำทุกการเดินทาง เสริมด้วยแสงไฟเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารกว่า 128 เฉดสี
เบาะนั่งหรูแบบ 5 ที่นั่งหุ้มหนัง NAPPA เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้ามาพร้อมกับ ระบบอุ่นเบาะ ระบบระบายอากาศ และนวด 10 จุด จดจำตำแหน่งการปรับตำแหน่ง ติดตั้งตู้แช่ความเย็นขนาดเล็กทั้งด้านหน้า 4 ลิตร ใส่น้ำขวดได้ 6 ขวด และหลัง 10 ลิตร บรรจุแชมเปญได้ 2 ขวดหรือไวน์ 4 ขวด ซันรูฟขนาดใหญา 2.1 ตารางเมตร ชุดหนังสัมผัสตกแต่งด้วยแผงคอนโซลหน้าแผงประตูด้วยวัสดุระดับพรีเมียม คอนโซลกลางมีหัวคันเกียร์ไฟฟ้าเป็นคริสตัล พร้อมกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่อง 2 ด้านบนหลังคารถ และโทนการตกแต่ง 2 สีทั้ง สีขาวและสีแดงเบอร์กันดี
สมรรถนะ Performance
ยกมาจากเวอร์ชัน Shooting Brake ด้วยขุมพลังมาแบบไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวให้กำลังรวมถึง 966 แรงม้า ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าหนึ่งตัวให้กำลัง 313 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังสองตัวให้กำลังตัวละ 326 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP Blade โดยให้ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ยังมีขุมพลัง Plug In Hybrid ด้วยเบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร รหัส BYD479ZQA แรงสุด 207 แรงม้าในภาคเครื่องยนต์ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าหนึ่งตัวให้กำลัง 272 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังสองตัวให้กำลังตัวละ 299 แรงม้า และชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 38.512 kWh จาก BYD FinDreams เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 870 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTC 161 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
DENZA Z9 GT ท้าชน Porsche Panamera และเพื่อนร่วมชาติ ZEEKR 001 พร้อมเปิดตัวที่เมืองจีนช่วงปลายปี 2024 ทางด้านยุโรปพบกันช่วงปี 2025 ทางด้านเวอร์ชันซีดานอาจเปิดตัวปลายปีนี้จะเปิดตัวทีหลังหรือพร้อมกันนั้นต้องติดตาม
ที่มา CarNewsChina