ไทยเตรียมจัด F1 ที่กรุงเทพฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของไทย ได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Formula 1 Street Grand Prix ในกรุงเทพฯ ระหว่างปี 2028–2032 (เป็นเวลา 5 ปี)
มีการตั้งวงเงินงบประมาณไว้ประมาณ 40–41.4 พันล้านบาท (ประมาณ 1.2–1.3 พันล้าน USD)
งบนี้ครอบคลุมค่า ลิขสิทธิ์โฮสติ้งผู้จัด (hosting fee), ค่าออกแบบ, ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, ค่าที่ปรึกษา, ค่าดำเนินงาน และกิจกรรมเสริมอีกมากมาย
รายละเอียดงบประมาณ
-
รวมงบประมาณทั้งสิ้น 41,379 ล้านบาท (ราว 1.27 – 1.3 พันล้าน USD) ทั้งหมดมาจากงบประมาณภาครัฐ
-
แบ่งจ่ายเป็นงบกลางและงบประจำปี ในช่วงปีงบประมาณ 2568–2575 ตามรายการ:
-
ปี 2568: 277 ลบ.
-
ปี 2569: 1,448 ลบ.
-
ปี 2570–2575: ระหว่าง 6,146–7,281 ลบ. ต่อปี
-
แยกค่าใช้จ่ายย่อย (19 รายการ)
แบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่:
-
เตรียมงาน (CAPEX & Pre-op) เช่น ค่าลิขสิทธิ์ F1, ที่ปรึกษา, สนับสนุนชุมชน ประมาณ 14,318 – 14,400 ลบ.
-
ดำเนินงาน (OPEX) รวมค่าใช้จ่ายการจัดกิจกรรม การตลาด บริหารงาน ประมาณ 19,000 ลบ.
-
ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างอาคารปรับปรุงสนาม, ปรับแต่งบริเวณโดยรอบ ประมาณ 5,669 ลบ.
สถานที่และเส้นทางแข่งขัน
-
จะจัดในรูปแบบ Street Circuit ระดับเมือง (City Night Race)
-
ระยะเวลาแข่ง 3 วัน (ศุกร์–อาทิตย์) ระหว่างเดือนมีนาคมหรือกันยายน
-
เส้นทางวิ่งยาว ประมาณ 5.7 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่:
-
สวนจตุจักร
-
สิงหัวไปถึงสถานีกลางบางซื่อ
-
เชื่อมต่อ รร.กีฬาจตุจักร ตลาดจตุจักร PTT HQ และรถไฟแห่งประเทศไทย (ราว 800–2,000 ไร่ทั้งหมด)
-
เงื่อนไขและข้อกำหนด
-
ต้องทำ ประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังข้อเสนอจากชุมชนและผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การจราจร ชุมชน
-
โรดแมประบุให้เป็น งานที่ยั่งยืน (Sustainable F1) คำนึงถึงนวัตกรรมสีเขียว และกระตุ้นเทคโนโลยีรักษ์โลก
-
ห้ามละเมิดมาตรฐาน FIA และ F1 ทั้งด้านมาตรฐานสนาม ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการตาม MOU กับทาง F1
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
-
รัฐบาลประเมินว่า F1 จะสร้างรายได้ หมื่นล้านบาทต่อปี สูงกว่ารายได้จาก MotoGP (4–5 พันล้านบาทต่อปี)
-
กรุงเทพมหานครคาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวได้ถึง 300,000 คนในช่วงสุดสัปดาห์แข่ง และสร้างรายได้ถึง 14 พันล้านบาท พร้อมภาษี 1.4 พันล้านบาท รวมถึงการลงทุนใหม่ๆราว 7 พันล้านบาท และจ้างงาน 8,000 ตำแหน่ง/ปี
แม้จะมีมุมมองกังวลว่าในเชิงตรง F1 อาจไม่คุ้มทุน (ในบางกรณีหากพิจารณาจากการจัดงานเท่านั้น อาจขาด 6–10 พันล้านบาท) แต่รัฐบาลประเมินว่าค่าใช้จ่ายสามารถคืนทุนได้ภายในปีแรก หรือปีที่สอง ด้วยประโยชน์ทางภาพลักษณ์ เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระยะยาว
ความท้าทายในการเป็นเจ้าภาพ
-
การจัด street circuit ในเมืองใหญ่ ทำให้ผู้ชมเข้าถึงง่าย ใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ เช่น BTS–MRT จึงคาดว่าจะมีคนเข้าชมมากกว่าสนามนอกเมืองแบบสุพรรณบุรีหรือชะลอ
-
แต่ก็มีความท้าทายเรื่องการจัดการจราจรคนเมือง สิ่งแวดล้อม และเสียง นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายสูง ต้องมีความรอบคอบ ทั้งในแผนประชาพิจารณ์ และระบบบริหารจัดการเมืองอย่างเข้มงวด