รถใหม่ลำดับที่ 2 ของค่าย GAC บุกตลาดออสเตรเลียอย่างเต็มรูปแบบต่อจาก AION V กับ GAC M8 PHEV เอ็มพีวีหรูพลังปลั๊กอินไฮบริด

GAC M8 PHEV เปิดตัวในจีนเมื่อปี 2023 และขยายตลาดมาเปิดพวงมาลัยขวาที่ฮ่องกง เมืองไทย มาเลเซีย และล่าสุดที่ออสเตรเลีย
หน้าตาเน้นหรูหรา
ด้วยชุดกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ Lion Claw ไส้ในแนวตั้ง 10 ซี่ ปะตราโลโก้เด่น พร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า Lion Claw LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime มาแบบเลขเจ็ดในชุดไฟหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทรงใหญ่พร้อมสเกิร์ตในตัวปักคำว่า Master สีเงิน
ด้านข้างมาพร้อมหลังคา Dual Panoramic Sunroof ถัดลงมาเป็นชุดตกแต่งสีเงินโครเมียมที่ขอบกระจก กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับ-พับด้วยไฟฟ้า ที่เปิดประตูดึงก้านตกแต่งสีเดียวกับตัวรถ ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า คิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีเงิน ไฟท้าย Lion Fang ดีไซน์แนวยาว LED รูปตัว U คว่ำและไฟเลี้ยววิ่ง Sequential พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าตกแต่งด้วยกันชนหลังพร้อมสเกิร์ตสีเงินในตัวปักคำว่า Master
ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/60R18 ติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่งโดยมาจากพื้นฐาน โดยมิติตัวรถมีดังนี้
- ความยาว 5,212 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,893 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,823 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,070 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 171 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,420-2,460 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 56 ลิตร

ภายในหรูหรา
เหมือนสเปกไทยตั้งแต่เบาะนั่งหนังแท้ 7 ที่นั่งโดยเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ดันหลัง 4 จุด และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีระบบอุ่นเบาะกับเบาะเย็นและนวดเพื่อผ่อนคลาย 10-16 จุดสำหรับเบาะหน้า เบาะนั่งแถวที่สองมาแบบ VIP Captain Seat แบบ Zero Gravity ออกแบบตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats)
ระบบนวด เบาะอุ่น เบาะเย็นควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen LCD 5 นิ้ว พร้อมช่องเสียบ USB ที่วางแก้วตกแต่งด้วยวัสดุหนังและเลื่อนได้สุด 220 มิลลิเมตร และเบาะนั่งตอนที่ 3 มีพื้นที่ด้านหลังขนของได้มากขึ้นด้วยการพับเบาะแบบ 60/40 มีพื้นที่การสัมภาระ 280-1,500 ลิตร

แผงคอนโซลหน้ามีจอขนาดใหญ่เริ่มที่จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว นิ้วรองรับ Apple Car Play และ Android Auto มาตรวัดความเร็วแบบจอ LCD สีขนาด 12.3 นิ้ว จอเพดานขนาด15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง Audio System 8 จุด มีช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V
มีไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 มีฟอกอากาศ Plasma กุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะพร้อมระบบ Push Start ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 50W พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านมีปุ่มการทำงานซ้าย-ขวาให้ไวขึ้นพร้อมระบบอุ่นที่พวงมาลัย พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น

ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด
ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร TGDI 4B20J2 ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 182 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไออออนขนาด 25.57 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 373 แรงม้า แรงบิดรวม 630 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 120 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 106 กิโลเมตร (WLTP) วิ่งไกลสุดเมื่อรวมการทำงานทุกระบบทำได้ 1,038 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 1,032 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.8 วินาที
การชาร์จมี 2 รูปแบบทั้งชาร์จช้ากระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 6.6 kW ภายใน 3.5 ชั่วโมง และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% สูงสุด 39 kW ภายใน 8 นาที รองรับ V2L ประหยัดน้ำมัน 16.39 กิโลเมตรต่อลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Two Speed DHT (2AT) มาพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ โดยด้านหน้ามาในช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังมาแบบมัลติลิงก์พร้อมความปลอดภัยรอบคันด้วย ADAS ประกอบด้วย
- จอดรถอัจฉริยะ Fusion Automatic Parking Assist (FAPA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC)
- ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Limit (ISL)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะรถติด Traffic Jam Assist (TJA)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Breaking (RCTB)
- ช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK)
- เตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Car Approaching Warning (RAW)
- ป้องกันการออกจากรถขณะมีรถแล่น Safe Exit Assist (SEA)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Program (ESP)
ควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Hold Control (HHC) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)

ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ตรวจวัดลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) เตือนก่อนเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยหลังเบาะตอนที่ 3 กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติสัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา

GAC M8 PHEV เปิดขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Premium และ Luxury เริ่มต้น $76,590-$83,590 เป็นราคาไม่รวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road หรือราว 1,605,000-1,749,000 บาท ขายพร้อมกับ AION V และ GAC EMZOOM
ที่มา CAREXPERT










